ข้อความต้นฉบับในหน้า
สรุป
มรรคทั้ง 8 ประการนั้น เป็นปัจจัยเกื้อกูลกันจะขาดข้อใดข้อหนึ่งไปไม่ได้ ในเชิงทฤษฎีสามารถนำ
ไปสู่การปฏิบัติมรรคมีองค์ 8 ที่เป็นรูปธรรมได้ด้วยการสั่งสมความดีมีทาน ศีล ภาวนา เพื่อสะสมให้
ควบแน่นยิ่งขึ้นไป โดยจะพิจารณาเห็นเป็นหลักการตามนี้ว่า เมื่อบุคคลสร้างกุศลกรรม มีทานและศีล เป็นต้น
จะก่อให้เกิดอานิสงส์ได้สมบัติ 3 ประการ เมื่อบุคคลมีปัญญาหยั่งรู้เช่นนี้แล้ว ก็จัดได้ว่า มีสัมมาทิฏฐิบังเกิด
ในสันดาน บุคคลผู้มีความดำริที่จะสร้างกุศลกรรม มีทานและศีล การมีความดำริที่จะเว้นจากวจีทุจริต กาย-
ทุจริต และมิจฉาอาชีวะ ในขณะที่บำเพ็ญกุศล ย่อมได้ชื่อว่าสัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ และสัมมาอาชีวะ การ
มีความดำริพากเพียรในการสร้างกุศลกรรม ย่อมได้ชื่อว่า สัมมาวายามะ บังเกิดขึ้นในสันดาน การมีความ
คิดที่คอยระลึกถึงการสร้างกุศลกรรมอยู่เป็นนิจกาล ได้ชื่อว่า สัมมาสติ บังเกิดขึ้นในสันดาน ความคิดที่จะ
ยังจิตให้ตั้งมั่นเป็นอารมณ์เดียว คือ เอกัคคตา ย่อมได้ชื่อว่า มีสัมมาสมาธิ บังเกิดในสันดาน
มรรคมีองค์ 8 ประการนี้ ย่อมบังเกิดในภูมิทั้ง 4 คือ กามาพจรภูมิ รูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ และ
โลกุตตรภูมิ เมื่อบังเกิดในโลกุตตรภูมิ ก็ได้ชื่อว่าโลกุตตรมรรค เมื่อบังเกิดในกามาพจรภูมิก็ได้ชื่อว่าโลกิยมรรค
มรรคอันเป็นโลกีย์นั้น คือ สัตบุรุษผู้มีศรัทธาสร้างกุศลอันประกอบด้วยการบำเพ็ญทาน รักษาศีล เจริญภาวนา
และสดับฟังพระธรรมเทศนาเป็นสำคัญ หมายความว่า ถ้าบุคคลบำเพ็ญทาน รักษาศีล บำเพ็ญเพียรภาวนา
และสดับฟังพระธรรมเทศนาเวลาใด เวลานั้นก็ได้ชื่อว่า บำเพ็ญมรรคมีองค์ 8 ทั้งนี้เพราะมรรคทั้ง 8
ประการนี้เกิดขึ้นด้วยการทำกุศลทั้งปวงนั้นๆ ทุกครั้ง
8.2.3 มัชฌิมาปฏิปทาในทางปฏิบัติ
มัชฌิมาปฏิปทาที่กล่าวถึงในหัวข้อ 8.2.2 นั้น
เป็นเรื่องของภาคทฤษฎีที่ทำให้เราได้เข้าใจความหมาย
ของมรรคมีองค์ 8 ได้ในระดับหนึ่ง แต่ในเชิงปฏิบัตินั้น
พระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนีได้ปรารภไว้ในพระ
ธรรมเทศนาเรื่องธัมมจักกัปปวัตตนสูตร แสดงไว้เมื่อวัน
ที่ 3 มกราคม 2498 ว่า เรื่องกลางนี้เป็นเรื่องลึกซึ้งยิ่ง
นัก ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครเข้าใจกันเลย แท้จริงแล้วธรรมที่
เรียกว่า ข้อปฏิบัติอันเป็นกลางนั้น หมายถึง การส่งใจ
เข้าไปหยุดอยู่ที่ศูนย์กลางกายมนุษย์
ศูนย์กลางกายของเราได้โดยจินตนาการว่าขึงเส้นดาย
สองเส้น เส้นหนึ่งซึ่งจากสะดือตรงไปทะลุสันหลัง อีก
เส้นหนึ่งจากสีข้างด้านซ้ายตรงไปทะลุด้านขวา ณ จุดที่
เส้นด้ายตัดกันซึ่งขนาดเล็กเท่ากับปลายเข็ม คือ ศูนย์กลาง
กายฐานที่ 6 เหนือจุดตัดขึ้นมาสองนิ้วมือ คือ ศูนย์กลาง
กายฐานที่ 7
เราจะหา
* ทตตชีโว ภิกขุ, ธรรมจักกัปปวัตนสูตร, หน้า 134.
ภาพแสดงที่ตั้งจิตทั้ง ๗ ฐาน
ขายข้าว
ฐานที่ ๑ ปากช่องจมูก (นางข้างซ้าย
( หญิงบ้างซ้าย ด
ฐานที่ ๒ เหลาคา ขายร้านวา
ฐานที่ ๓ จอมประสาท
รานที่ ๔ องเท น
ฐานที่ ๕ ปากช่อง คอ
ฐานที่ ๗ ศูนย์กลางกายที่ตั้งจิตถาวร
ฐานที่ 5 ศูนย์กลางกายระดับสะดือ
บทที่ 8 วิถี สู่ ความเป็นพุทธะ DOU 189