ข้อความต้นฉบับในหน้า
บทที่ 6
พุทธประวัติพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันช่วงมัชฌิมกาล
ความน่า
ในบทที่ 5 ได้แสดงถึงพระโพธิสัตว์ผู้มีบารมีที่สั่งสมมาเต็มเปี่ยมบริบูรณ์พร้อมแล้วที่จะมาตรัสรู้เป็น
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมเหล่าทวยเทพจึงได้อัญเชิญพระโพธิสัตว์ซึ่งอยู่ที่สวรรค์
ชั้นดุสิตลงมาตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อพระองค์จะลงมาตรัสรู้จึงได้ตรวจดูมหาวิโลกนะทั้ง 5 ประการ
ครบถ้วนแล้ว จึงได้จุติลงมาเกิดเป็นมนุษย์อยู่ในตระกูลกษัตริย์ ได้พระนามว่า สิทธัตถะ ซึ่งได้ใช้ชีวิตแบบ
ชาวโลกอยู่ระยะหนึ่ง ก็มีเหตุทำให้พระองค์ได้ตัดสินใจออกบวช เพื่อหาหนทางดับทุกข์ ด้วยการเข้าไปศึกษา
ยังสำนักอาจารย์อุททกดาบสและอาฬารดาบส แต่ไม่พบหนทางหลุดพ้น จึงดำเนินการค้นคว้าด้วยพระองค์เอง
โดยการทำทุกรกิริยา คือ การทรมานตนเองตามอย่างนักบวชในสมัยนั้นอย่างหนัก ทรงทรมานตนเองอยู่นานถึง
6 ปี ก็ยังไม่สามารถที่จะบรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณ จึงได้เปลี่ยนวิธีการในการบำเพ็ญเพียรใหม่ กลับมายึด
หลักทางสายกลาง เพื่อให้บรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณ ในบทที่ 5 จึงเป็นช่วงแรกหรือที่เรียกว่า ปฐมกาล
ในชาติสุดท้ายที่จุติมาเพื่อการตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ส่วนในบทที่ 6 นี้ เป็นช่วงที่สอง หรือที่เรียกว่า
มัชฌิมกาล เป็นระยะเวลาช่วงกลางของพุทธประวัติในชาติสุดท้าย ที่ดำเนินต่อจากช่วงปฐมกาลเป็นรอยต่อ
ที่สำคัญที่ พระโพธิสัตว์จะได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยในบทเรียนนี้จะได้แสดงถึงการบำเพ็ญ
เพียรที่ทำให้พระองค์ได้ ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และบทบาทของพระองค์ที่ทำหน้าที่เป็นครูของโลก
ที่ตรัสสอนสรรพสัตว์ทั้งหลาย ตลอดพระชนมชีพของพระองค์จนกระทั่งถึงช่วงที่พระองค์ได้ทำการปลงอายุ
สังขาร เป็นลำดับไปดังที่จะได้แสดงต่อไป
6.1 ตรัสรู้สัมมาสัมโพธิญาณ
หลังจากที่พระโพธิสัตว์ได้หลีกออกจากสำนักของอุทกดาบสและอาฬารดาบสแล้ว ก็ได้แสวงหา
หนทางพ้นทุกข์ที่พระองค์ปรารถนา คือ พระนิพพานด้วยพระองค์เอง โดยได้อาศัย อยู่ในตำบลอุรุเวลาเสนานิคม
ซึ่งในสถานที่แห่งนี้ อุปมา 3 ข้อ 1 ที่พระองค์ไม่เคยได้ยินได้ฟังจากที่ไหนมาก่อน ก็ได้ปรากฏแก่พระโพธิสัตว์
เมื่ออุปมาทั้ง 3 ข้อนี้เกิดขึ้นแล้ว ตั้งแต่นั้นมาพระโพธิสัตว์ก็ได้บำเพ็ญเพียร ด้วยการทรมานตนตาม
แบบอย่างการบำเพ็ญเพียรในยุคนั้น เพื่อแสวงหาแนวทางตรัสรู้ แต่หลังจากที่ได้บำเพ็ญเพียรอย่างหนักตลอด
6 ปี ก็ยังไม่สามารถบรรลุธรรมตามที่ปรารถนาได้ กลับได้รับแต่ทุกขเวทนาอย่างเดียว พระองค์จึงเกิดความคิดว่า
การปฏิบัติอย่างนี้คงจะไม่ใช่ทางตรัสรู้ ทางตรัสรู้น่าจะเป็นอย่างอื่น และในขณะนั้นพระองค์ก็ได้หวน
ระลึกถึงเมื่อครั้งงานแรกนาขวัญที่ประทับอยู่ใต้ต้นหว้าว่าการบำเพ็ญเพียรทางจิตนั้นอาจจะเป็นหนทางตรัสรู้ได้
และก็พลันได้ยินเสียงพิณ 3 สายแว่วมา ทรงระลึกได้ว่า สายที่ขึงตึงเกินไป ดีดไปได้ไม่นานก็ขาด สายที่ 2
ขึงหย่อนเกินไปดีดเท่าไรก็ไม่มีเสียง สายที่ 3 ดีดได้ไพเราะจับใจ ทำให้นึกได้ว่าความพอดีคือทางสายกลางเท่า
นั้นที่จะเป็นหนทางนำไปสู่ความหลุดพ้นได้ ทรงพิจารณาได้ดังนี้แล้ว จึงเลิกการทรมานตนเอง หันกลับมาเสวย
โพธิราชกุมารสูตร, มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์, มก. เล่ม 21 หน้า 109
138 DOU ศาสตร์แห่งการเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า