พระสัมมาสัมพุทธเจ้า: ความหมายและคุณค่าของพระองค์ GL 204 ศาสตร์แห่งการเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หน้า 39
หน้าที่ 39 / 209

สรุปเนื้อหา

บทความนี้กล่าวถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้าซึ่งทรงมีคุณูปการยิ่งใหญ่ในการดับทุกข์ให้กับสรรพสัตว์ โดยมีการนำเสนอความหมายต่างๆ ของคำว่า 'พระสัมมาสัมพุทธเจ้า' รวมถึงคุณธรรมและวิธีการของพระองค์ในการสอนสั่งธรรมะให้เข้าใจง่าย ทำให้ผู้คนเห็นถึงความสำคัญของพระองค์ โดยพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงหักวัฏสงสารและแจกแจงธรรมให้เข้าใจชัดเจน พร้อมด้วยการส่งเสริมการปฏิบัติธรรมเพื่อให้เข้าถึงพระนิพพาน แม้เวลาก็ยังไม่สามารถทำให้พระคุณอันเหลือเชื่อของพระองค์เลือนหายไปจากใจของผู้ปฏิบัติธรรมและพุทธบริษัททั้ง 4 ทุกวันนี้.

หัวข้อประเด็น

-ความหมายของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
-คุณธรรมของพระพุทธองค์
-การดับทุกข์
-การสั่งสอนธรรมะ
-ภาพรวมของภควา

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ตามพระองค์ไปด้วย มีความสุขล้วนๆ ไม่มีทุกข์เจือปน ผู้ตื่น คือ ตื่นแล้วจากกิเลสอาสวะทั้งหลาย มนุษย์ส่วนใหญ่ยังหลับอยู่ คนหลับก็เหมือนคนที่ตาย ไปชั่วขณะ หลับใหลเพราะกิเลสเข้าไปบังคับบัญชา พระพุทธองค์ทรงพ้นจากการบังคับบัญชาของกิเลส ทรง รู้วิธีที่จะเอาชนะกิเลส จึงกำจัดกิเลสในตัวได้หมดสิ้น แล้วทรงสอนผู้อื่นให้รู้เรื่องการดับทุกข์อย่างแท้จริง ทั้ง ทำได้ด้วยสอนได้ด้วย ครูทำได้อย่างไร ก็สอนให้ลูกศิษย์ทำได้อย่างนั้นไม่มีศาสดาใดในโลกเสมอเหมือนพระองค์ ผู้เบิกบาน คือ พระพุทธองค์ทรงมีพระทัยผ่องแผ้วสะอาดบริสุทธิ์ เปรียบเหมือนดอกประทุมชาติ ที่เบ่งบานเต็มที่ เพราะพระองค์ทรงเป็นผู้รู้แจ้งธรรมะอันบริสุทธิ์ ตื่นแล้ว พ้นแล้วจากอาสวกิเลสทั้งหลาย สิ่ง เหล่านี้จึงทำให้พระองค์เบิกบาน เนื่องจากได้ทรงทำพุทธกิจที่ตั้งใจไว้สำเร็จแล้ว ประการที่ 9 ภควา มีความหมาย 2 นัย ความหมายแรก แปลว่า หัก หมายถึงพระพุทธองค์ทรง หักวัฏสงสารได้ กล่าวคือ อวิชชา ตัณหาและอุปาทาน ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ต้องวนเวียนอยู่ในวัฏสงสาร ไม่ให้ ออกจากภพ 3 ได้ แต่เมื่อพระพุทธองค์ทรงหักได้แล้ว ก็สามารถที่จะออกจากภพ 3 ไปสู่พระนิพพานได้ในที่สุด ความหมายที่ 2 แปลว่า แจก หมายถึง พระพุทธองค์ทรงเป็นผู้จำแนกธรรมทั้งหลายให้เห็นชัดเจน เข้าใจได้ง่าย และง่ายต่อการนำไปปฏิบัติที่เหมาะสมกับสติปัญญาของสรรพสัตว์ทั้งหลาย ที่พระองค์ทรง ทำได้อย่างนี้เพราะเหตุที่ได้ตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว ทรงเป็นสัพพัญญู รู้แจ้งธาตุธรรมทั้งปวง จึงทำให้สามารถจำแนกธรรมทั้งหลายได้อย่างชัดเจนเหมาะกับสติปัญญาของสรรพสัตว์ทั้งหลายให้ได้รู้เห็น และรับปฏิบัติสืบๆ กันมา และทรงประกาศพรหมจรรย์ คือแบบแห่งการปฏิบัติอันประเสริฐ บริสุทธิ์บริบูรณ์ อันไพเราะทั้งเบื้องต้น ท่ามกลางและในที่สุด เมื่อได้ศึกษาจากพระพุทธคุณทั้ง 9 แล้ว จะเห็นว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ อันยิ่งใหญ่ที่จะรื้อสัตว์ขนสัตว์ให้พ้นจากทุกข์ภัยในวัฏสงสาร ทรงยังสรรพสัตว์ทั้งหลายให้ดำรงอยู่ในอริยภูมิ อันประเสริฐ ทรงเป็นที่พึ่งอันเกษมอย่างสูงสุดของสรรพสัตว์ทั้งหลาย ทรงขับไล่อวิชชา คือความไม่รู้ ให้ ออกไปจากขันธสันดานของสรรพสัตว์ทั้งหลายทรงเป็นผู้รู้เรื่องราวความเป็นจริงของโลกและชีวิตอย่างแจ่มแจ้ง คุณความดีและคุณประโยชน์เหล่านี้ จึงเป็นเหตุให้พระพุทธองค์ได้รับการเทิดทูนบูชาอย่างสูงสุดจากเทวดา และมนุษย์ทั้งหลาย แม้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะเสด็จดับขันธปรินิพพานมาได้ประมาณสองพันกว่าปีแล้ว แต่ถึงกระนั้น พระพุทธคุณอันไม่มีประมาณ ก็มิได้เลือนหายไปจากใจของพุทธบริษัททั้ง 4 เพราะพระธรรม คำสั่งสอนของพระพุทธองค์ยังคงปรากฏอยู่ตราบถึงทุกวันนี้ นอกจากนี้ยังทำให้เราเข้าใจภาพของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าชัดเจนอีกว่า พระองค์ทรงเป็นใคร ทรง ดำเนินชีวิตมาอย่างไร จึงทำให้พระองค์สมความปรารถนาที่ตั้งใจไว้ เพราะฉะนั้นเมื่อได้ศึกษาพระพุทธคุณ ทั้ง 9 ประการแล้ว ก็สามารถที่จะสรุปเนื้อหาของพระพุทธคุณมาเป็นความหมายของคำว่า “พระสัมมา สัมพุทธเจ้า” ได้อย่างถูกต้อง 2.1.2 นิยามของคำว่า “พระสัมมาสัมพุทธเจ้า” คำว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีผู้ให้คำนิยามไว้มากมาย มีนัยที่แตกต่างกันไปตามสติปัญญาที่ผู้นั้น - หนังสือนักธรรมชั้นโท วิชาธรรมวิภาค หน้า 229 แปลความหมายว่า ทรงเป็นผู้มีโชค เมื่อพระองค์จะทรงทำการใดก็ ลุล่วงปลอดภัยทุกประการ 28 DOU ศาสตร์แห่งการเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More