บทที่ 4 พระชาลีราชกุมารและพระกัณหาชินาราชกุมารี GL 204 ศาสตร์แห่งการเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หน้า 122
หน้าที่ 122 / 209

สรุปเนื้อหา

เนื้อเรื่องนี้เล่าถึงการบริจาคตัวของพระเวสสันดรให้กับชูชก ซึ่งทำให้พระชาลีและพระกัณหาชินารู้สึกตกใจและเสียใจ พระเวสสันดรได้อธิบายเหตุผลในการบริจาคอย่างชัดเจนและพูดปลอบให้บุตรทั้งสองเข้าใจ ในระหว่างนี้ มีเหตุการณ์ต่างๆ ที่แสดงให้เห็นถึงความรักและทานบารมีของพระโพธิสัตว์ เมื่อพระนางมัทรีรู้เรื่องก็ถึงกับสลบล้ม และเมื่อฟื้นขึ้นมาก็อนุโมทนาบุญในทานที่พระเวสสันดรได้บริจาค พระเจ้าสัญชัยได้ทราบเรื่องนี้และมีความสงสัยเกี่ยวกับการบริจาค พระชาลีได้อธิบายให้พระเจ้าฟังถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

หัวข้อประเด็น

-บริจาคทาน
-ความรักในครอบครัว
-การเสียสละ
-เหตุการณ์ในสระโบกขรณี
-การบทสนทนาของพระเวสสันดรและพระนางมัทรี

ข้อความต้นฉบับในหน้า

พระชาลีราชกุมารและพระกัณหาชินาราชกุมารีรู้ว่าพระบิดาจะต้องบริจาคตัวให้กับชูชกอย่างแน่นอน ก็ขนลุกชูชัน ตกใจกลัวหวาดหวั่นไปตามๆ กัน จึงพากันลงไปยืนอยู่ในสระโบกขรณี เอาใบบัววางไว้บนพระ เศียร ยืนขาสั่น น้ำตาไหลอาบแก้มอยู่ในน้ำ ฝ่ายชูชกไม่เห็นสองกุมาร จึงพูดรุกรานกระทบกระเทียบพระโพธิสัตว์ พระเวสสันดรจึงได้ลุกออกไปดู ก็ทราบว่าพระโอรสพระธิดาเสด็จไปยืนอยู่ในสระโบกขรณี จึงตรัสบอกให้ พระราชโอรสและพระราชธิดาเข้าใจถึงเหตุในการบริจาคทานครั้งนี้ให้กับชูชก ซึ่งทั้งสองพระองค์ก็เข้าใจ จึงได้ขึ้นมาจากสระโบกขรณี และร้องไห้ด้วยความรักในพระโพธิสัตว์ พระองค์จึงได้พูดปลอบโยนบุตรทั้งสอง แล้วทรงกำหนดราคาพระราชกุมารพระราชกุมารีในการไถ่ตัว แล้วทรงจับพระเต้าน้ำ หลั่งน้ำลงในมือชูชก พร้อมกับตรัสบอกถึงความรักพระสัพพัญญุตญาณของพระองค์ พระโพธิสัตว์เจ้าครั้นทรงบำเพ็ญบุตรทานแล้ว ก็เกิดความปีติโสมนัสในใจ ฝ่ายชูชกเข้าไปป่า เอา ฟันกัดเถาวัลย์ถือมาผูกพระหัตถ์ขวาของพระชาลีกุมารรวมกันกับพระหัตถ์ซ้ายของพระกัณหาชินากุมารี ถือ ปลายเถาวัลย์ไว้ แล้วเฆี่ยนตีต่อหน้าพระพักตร์ของพระเวสสันดร สั่งให้ทั้งสองหยุดร้องไห้ จากนั้นก็ฉุดดึง พระกุมารทั้งสองออกจากป่าไป ในขณะนั้นเทพบุตร 3 องค์ จึงจำแลงกายเป็นราชสีห์ เป็นเสือโคร่งและเป็น เสือเหลือง นอนกั้นทางเสด็จกลับอาศรมของพระนางมัทรีเอาไว้ จนกว่าดวงอาทิตย์จะอัสดงคต เพื่อจะให้ ทานบารมีของพระโพธิสัตว์ได้สำเร็จบริบูรณ์ ฝ่ายพระนางมัทรีหวั่นพระหฤทัยอยู่ พร้อมกับในวันนี้ก็มีเหตุ ลางสังหรณ์เกิดขึ้นหลายอย่าง เช่น เสียมหลุดจากพระหัตถ์ กระเช้าหลุดจากบ่า พระเนตรเบื้องขวาเขม่น พฤกษาชาติที่มีผลก็เหมือนกับไม่มีผล พฤกษาชาติที่ไม่เคยมีผลก็เหมือนกับว่ามีผลดก ทิศทั้งสี่ก็กำหนดไม่ได้ ยิ่งเมื่อมาเจอกับสัตว์ร้ายที่นอนขวางทางอยู่ข้างหน้า พระนางก็ตกพระทัยได้แต่อ้อนวอน แต่สัตว์ร้ายทั้ง 3 ก็ไม่ยอมลุกขึ้นไปไหน จวบจนพลบค่ำจึงหลีกเข้าป่าไป ฝ่ายพระนางมัทรีก็รีบเดินทางกลับอาศรมทันที เมื่อกลับมาถึงก็มองไม่เห็นพระโอรสพระธิดา ก็รีบเสด็จไปเฝ้าพระเวสสันดร ทูลถามถึงพระกุมาร กุมารีทั้งสอง ซึ่งพระเวสสันดรไม่ได้ให้คำตอบ แต่กลับต่อว่าที่นางกลับมามืดค่ำอย่างนี้ พระนางมัทรีจึงได้ เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ให้ฟัง เมื่อพระเวสสันดรได้สดับแล้ว จึงบอกว่าพระองค์ได้บริจาคกัณหาชาลีให้กับ ชูชกแล้ว เมื่อนางได้ฟังเช่นนั้น ก็สลบล้มลงเพราะความโศกที่บุตรทั้งสองต้องพรากจากไป พระเวสสันดร เห็นเช่นนั้น จึงเข้าไปประครองนางแล้วแก้ไขให้พระนางตื่นขึ้นมา เมื่อผ่านไปได้ไม่นาน พระนางก็ได้สติรู้สึก ตัวขึ้นมา ก็รีบขอขมาพระโพธิสัตว์พร้อมกับอนุโมทนาบุญในทานที่พระองค์ได้บริจาคบุตรทั้งสองเป็นทาน ในวันต่อมาท้าวสักกเทวราชได้ทรงจำแลงเพศเป็นพราหมณ์ไปเฝ้าพระเวสสันดร เพื่อขอพระนางมัทรี ซึ่งพระโพธิสัตว์ก็ได้ยกให้พระนางมัทรีแก่พราหมณ์จำแลง บ้างสักกเทวราชจึงได้กล่าวชมเชยสรรเสริญ พระโพธิสัตว์และพระนางมัทรี พร้อมทั้งให้พระเวสสันดรของพรได้ 8 ข้อ พระโพธิสัตว์ก็ขอพรครบทั้ง 8 ข้อ ซึ่งท้าวสักกเทวราชได้ให้คำยืนยันว่าพรทั้ง 8 ข้อจะสำเร็จแน่นอน ฝ่ายพราหมณ์ชูชกพากุมารทั้งสองพระองค์ เดินทางไกลจนกระทั่งถึงกรุงเชตุดร ในขณะนั้นเอง พระเจ้าสัญชัยทอดพระเนตรไปทางถนน ทรงเห็นสองกุมารกุมารีซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกัน คนหนึ่ง เหมือนพระชาลี คนหนึ่งเหมือนกัณหาชินา เกิดความสงสัยขึ้นมา แต่ก็คิดไม่ถึงว่า กุมารและกุมารนี้จะ เป็นหลานของพระองค์เองจึงทรงรับสั่งให้อำมาตย์ไปเชื้อเชิญเข้ามาใกล้ๆ เมื่อมาแล้วจึงได้ไต่ถามพราหมณ์ชูชก ครั้นทราบความจริง จึงนึกสงสัยถึงการบริจาคบุตรเป็นทานของพระเวสสันดร แต่พระชาลีราชกุมารก็ได้ อธิบายให้พระเจ้าสัญชัยฟังอย่างละเอียด และยังบอกถึงค่าตัวของตนที่พระเวสสันดรได้กำหนดเอาไว้ บทที่ 4 ก่อนจะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน DOU 111
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More