ข้อความต้นฉบับในหน้า
สมัยนั้น ดาบสชื่อ กาฬเทวิล ผู้ได้สมาบัติ 8 เป็นผู้คุ้นเคยกับราชสกุลของพระเจ้าสุทโธทนะ ทราบ
ข่าวจากเทพชั้นดาวดึงส์ว่า พระราชโอรสของพระเจ้าสุทโธทนะประสูติแล้ว ทราบว่าโอรสพระองค์นั้น จัก
ประทับนั่งที่โพธิมัณฑสถาน แล้วจักเป็นพระพุทธเจ้าประกาศพระธรรมจักร ดาบสจึงได้ลงจากเทวโลกเข้าไป
ยังพระราชนิเวศน์ กราบทูลว่า ข้าแต่มหาบพิตร ได้ยินว่า พระราชโอรสของพระองค์ประสูติแล้ว อาตมา
ภาพอยากเห็นพระราชบุตรนั้น พระราชาจึงรับสั่งให้พาพระราชกุมารผู้ประดับตกแต่งแล้ว มาทรงอุ้มไปเพื่อ
ให้นมัสการพระดาบส แต่พระบาทของพระมหาบุรุษ กลับไปประดิษฐานอยู่บนชฎาของดาบส จริงอยู่บุคคล
อื่นที่ชื่อว่า พระมหาสัตว์จะพึงไหว้โดยอัตภาพนั้น ย่อมไม่มี
ถ้าผู้ไม่รู้ อาจจะพึงวางศีรษะของพระโพธิสัตว์ลงแทบบาทมูลของพระดาบส ก็ถ้าหากทำเช่นนั้น
ศีรษะของพระดาบสนั้นจะแตกออกเป็น 7 เสี่ยง พระดาบสคิดว่า เราไม่ควรจะทำตนของเราให้พินาศ จึงลุก
จากอาสนะ ประคองอัญชลีต่อพระโพธิสัตว์ พระราชาทอดพระเนตรเห็นเหตุอัศจรรย์นั้นจึงทรงไหว้โอรส
ของพระองค์ ดาบสกาฬเทวิลเห็นลักษณะสมบัติของพระโพธิสัตว์ ก็ทราบด้วยอนาคตังสญาณว่า พระโอรสนี้
จักได้เป็นพระพุทธเจ้าอย่างไม่ต้องสงสัย พระราชบุตรนี้เป็นอัจฉริยบุรุษ
ต่อแต่นั้น พระประยูรญาติทั้งหลายคิดว่า ในวันที่ 5 พวกเราจักโสรจสรงเศียรเกล้าของพระโพธิสัตว์
แล้วเฉลิมพระนามแด่พระองค์ ดังนี้แล้ว ฉาบทาพระราชมณเฑียรด้วยคันธชาติ 4 ชนิด ให้โปรยดอกไม้มี
ข้าวตอกเป็นที่ 5 ให้หุงข้าวมธุปายาสล้วนๆ นิมนต์พราหมณ์ 108 ผู้จบไตรเพทให้นั่งในพระราชมณเฑียร ให้
พราหมณ์เหล่านั้นบริโภคมธุปายาสและโภชนะอย่างดี ถวายสักการะมากมาย แล้วให้พราหมณ์บัณฑิต 8 ท่าน
มีรามพราหมณ์ เป็นต้น เป็นผู้ตรวจดูพระลักษณะของมหาบุรุษ
บรรดาพราหมณ์เหล่านั้น 7 ท่านพยากรณ์เป็นสองส่วนว่า ผู้ประกอบด้วยลักษณะเหล่านี้ เมื่อยู่
ครองฆราวาสวิสัยจักได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ เมื่อผนวชจักได้เป็นพระพุทธเจ้า แต่พราหมณ์ ชื่อ โกณฑัญญะ
ซึ่งมีอายุน้อยกว่าพราหมณ์เหล่านั้นทุกคน ได้พยากรณ์เป็นส่วนเดียวว่า ท่านผู้นี้ไม่มีเหตุที่จะดำรงอยู่ใน
ฆราวาสวิสัย จักเป็นพระพุทธเจ้า ผู้ทรงปราศจากกิเลสโดยส่วนเดียวเท่านั้น
ครั้งนั้น พระประยูรญาติ เมื่อถือพระนามของพระโพธิสัตว์นั้น จึงเฉลิมพระนามว่า สิทธัตถะ
เพราะทรงทำความสำเร็จแก่โลกทั้งปวง พระราชาทรงสดับคำของพราหมณ์บัณฑิตเหล่านั้นแล้วตรัสถามว่า
บุตรของเราเห็นอะไรจึงจะผนวช พราหมณ์เหล่านั้นทูลว่า เห็นนิมิต 4 คือ คนแก่ คนเจ็บ คนตาย และนักบวช
พระราชาจึงตรัสสั่งอำมาตย์ทั้งหลายว่า จำเดิมแต่นี้ไปพวกท่านจงอย่าได้ให้นิมิตเหล่านั้นเข้าไปในสำนักแห่ง
บุตรของเรา เราไม่ต้องการให้บุตรของเราเป็นพระพุทธเจ้า เราต้องการเห็นบุตรของเราครอบครองราช
สมบัติจักรพรรดิปกครองทวีปใหญ่ทั้ง 4 ซึ่งมีทวีปเล็กสองหมื่นเป็นบริวารห้อมล้อมด้วยบริษัทอันมีปริมณฑล
36 โยชน์ เมื่อพระองค์ตรัสอย่างนั้นแล้ว ทรงมีรับสั่งให้วางอารักขาไว้ในที่ทุกๆ คาวุตในทิศทั้งสี่ เพื่อจะห้าม
มิให้บริษัท 4 มีคนแก่เป็นต้น เข้ามาปรากฏในสายตาของพระกุมาร
พราหมณ์เหล่านั้น เมื่อกลับถึงเรือนของตนแล้ว ต่างพากันเรียกบุตรมาสั่งว่า นี่แนะพ่อทั้งหลาย
พวกเราแก่แล้ว จะทันได้เห็นพระราชบุตรของพระเจ้าสุทโธทนะ ทรงบรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณหรือไม่ก็ไม่รู้
ฉะนั้นเมื่อพระราชกุมารนี้ทรงผนวช บรรลุพระสัพพัญญุตญาณแล้ว พวกเจ้าพึงบวชในศาสนาของพระองค์เถิด
พราหมณ์แม้ทั้ง 7 คนเหล่านั้น ดำรงอยู่ตราบเท่าอายุขัยก็ตายไปตามยถากรรม โกณฑัญญะมาณพเท่านั้น
ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บยังมีชีวิตอยู่
บทที่ 5 พุทธประวัติพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันช่วงปฐมกาล DOU 125