ข้อความต้นฉบับในหน้า
ภายหลังเมื่อพระโพธิสัตว์เติบโตเจริญวัยขึ้นแล้ว บุตรพราหมณ์เหล่านั้นได้ทราบว่า พระมหาบุรุษ
ทรงผนวชแล้ว โกณฑัญญพราหมณ์จึงได้กล่าวชักชวนบุตรของพราหมณ์เหล่านั้น ให้บวชตามคำสั่งของบิดา
พวกเขาเหล่านั้นสามคนไม่บวช ที่เหลือสี่คนบวชตามพระมหาบุรุษ โดยตั้งให้โกณฑัญญะพราหมณ์เป็นหัวหน้า
พราหมณ์ทั้ง 5 คนนั้น จึงมีชื่อว่า พระปัญจวัคคีย์
ครั้งนั้น ตระกูลพระประยูรญาติแปดหมื่นตระกูล ประชุมกันในมงคลสถาน พระญาติแต่ละตระกูล
ก็ทูลปฏิญญาถวายโอรสตระกูลละองค์ด้วยคิดว่าถ้าพระสิทธัตถะกุมารนี้จักเป็นพระพุทธเจ้าก็จักมีขัตติยสมณะ
คอยแวดล้อมจาริกไป แต่ถ้ากุมารนี้จักเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ก็จักมีขัตติยกุมาร คอยแวดล้อมตามเสด็จไป
ฝ่ายพระนางเจ้ามายาผู้เป็นพระมารดา พอประสูติพระราชโอรสแล้วได้ 7 วัน ก็สิ้นพระชนม์
พระเจ้าสุทโธทน จึงทรงมอบพระราชโอรสนั้นให้พระนางปชาบดีโคตมี (พระมาตุจฉา) ดูแลต่อมา
ผู้เป็นบัณฑิตเมื่อเห็นลักษณะอันประเสริฐของพระราชโอรส อันเกิดจากการสั่งสมความดีงาม
มานับภพนับชาติไม่ถ้วน ย่อมทราบว่า เป็นลักษณะของผู้มีบุญที่จะได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเห็นถึง
ความสำคัญในความเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ปรารถนาที่จะได้เห็น ได้อยู่ใกล้ชิด แม้ตนไม่สามารถดำรง
ชีวิตอยู่ได้ ย่อมปรารถนาให้บุตรได้อยู่ใกล้
5.4 เหตุการณ์สำคัญในวันพระราชพิธีวัปปมงคล
เจ้าชายสัทธัตถะได้เจริญวัยขึ้นตามลำดับ ต่อมาวันหนึ่ง ได้มีพระราชพิธีวัปปมงคล (แรกนาขวัญ)
พระราชาพร้อมด้วยบริวารเป็นอันมากเสด็จออกจากพระนคร พระองค์ทรงพาพระราชโอรสไปด้วย ในที่
ประกอบพระราชพิธี มีต้นหว้าอยู่ต้นหนึ่งมีใบหนาแน่น มีเงาทึบ พระราชาทรงรับสั่งให้ปูลาดพระแท่น
บรรทมของพระราชโอรส ภายใต้ต้นหว้า แวดวงด้วยพระวิสูตร วางอารักขาให้พี่เลี้ยงนางนมนั่งห้อมล้อม
พระโพธิสัตว์อยู่
ส่วนพระราชาเสด็จไปเพื่อจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ในขณะที่ทรงไถ ณ ที่นั้นมีมหาสมบัติเกิดขึ้น
พวกพี่เลี้ยงนางนมต่างพากันออกมาข้างนอก เพื่อจะดูสมบัติของพระราชา พระโพธิสัตว์ทรงแลดูข้างโน้น
และข้างนี้มองไม่เห็นใครๆ จึงเสด็จลุกขึ้น ทรงนั่งขัดสมาธิ ยังปฐมฌานให้เกิด ฝ่ายพี่เลี้ยงนางนมรีบกลับมา
ด้วยคิดว่าพระลูกเจ้าประทับอยู่พระองค์เดียว จึงรีบเปิดพระวิสูตรขึ้น เห็นพระโพธิสัตว์ประทับนั่งขัดสมาธิ
บนแท่นบรรทม ได้เห็นปาฏิหาริย์ที่เงาของต้นหว้านั้นตั้งเป็นปริมณฑลตรงอยู่ ได้พากันเข้าไปกราบทูลแด่
พระราชาว่า ข้าแต่สมมติเทพ พระราชกุมารประทับนั่งอย่างนี้ เงาของต้นไม้ต้นอื่นคล้อยไปแล้ว แต่เงาของ
ต้นหว้ายังคงตั้งเป็นปริมณฑลตรงอยู่ พระราชารีบเสด็จมาทอดพระเนตรเห็นปาฏิหาริย์ นั้นจึงตรัสว่า นี่แนะ
พ่อ นี้เป็นการไหว้เจ้าครั้งที่สองแล้วทรงไหว้พระกุมาร
ต่อมา พระโพธิสัตว์มีพระชันษาได้ 16 พรรษา โดยลำดับ พระราชาทรงโปรดให้สร้างปราสาท 3
หลัง 3 ฤดู ทรงสถาปนาพระโพธิสัตว์ไว้ในสิริราชสมบัติ ทรงอภิเษก พระนางยโสธรา พระราชบุตรีของ
พระเจ้าสุปปพุทธะ ในเทวทหนครให้เป็นอัครมเหสี มีสตรีอีกสี่หมื่นนางเป็นนางสนม เสวยมหาสมบัติประทับ
อยู่ในปราสาท 3 หลัง เปลี่ยนไปตามฤดู
ชีวิตของเจ้าชายสิทธัตถะนั้นเพียบพร้อมไปด้วยกามสุข ที่พระราชบิดาคือพระเจ้าสุทโธทนะได้วาง
126 DOU ศาสตร์แห่งการเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า