ข้อความต้นฉบับในหน้า
กษัตริย์ทั้งหลายก็เป็นลูกศิษย์ของโทณพราหมณ์ พิจารณาเห็นอย่างนั้น จึงเข้ามาระงับการทำสงครามในครั้งนี้
และได้กล่าวเตือนสติเหล่ากษัตริย์ทั้งหลาย ทำให้ทุกฝ่ายพร้อมใจกันให้โทณพราหมณ์ดำเนินการแบ่ง
พระบรมสารีริกธาตุ โดยทำการแบ่งเป็นส่วนๆ เท่าๆ กัน เหล่ากษัตริย์พร้อมด้วยราชทูตที่มาจากแคว้นต่างๆ
จึงแยกย้ายกันกลับไป ภายหลังโมริยกษัตริย์ได้อัญเชิญพระอังคารที่ได้รับจากมัลลกษัตริย์ไปทำสถูปบรรจุไว้
ให้มหาชนสักการบูชา ณ ปิปผลิวัน
หลังจากที่ทำการแบ่งพระบรมสารีริกธาตุกันแล้ว ล่วงเลยมาได้ 3 เดือน พระมหากัสสปะได้
ปรารภเหตุที่พระสุภัททะผู้บวชตอนแก่ กล่าวจาบจ้วง แสดงความไม่เคารพในพระพุทธองค์ จึงได้ทำการ
สังคายนาพระธรรมวินัยขึ้นเป็นครั้งแรก ภายหลังจากที่พระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพานแล้ว โดยในการทำ
สังคายนาในครั้งนี้ ได้ประชุมกันที่ถ้ำสัตตบรรณคูหา ภูเขาเวภารบรรพต เมืองราชคฤห์ แคว้นมคธ
มีพระมหากัสสปะเป็นประธานและทำหน้าที่เป็นผู้ถาม พระอุบาลีเป็นผู้วิสัชชนาตอบพระวินัย พระอานนท์
เป็นผู้วิสัชชนาตอบพระสูตรและพระอภิธรรม พระเจ้าอชาตศัตรูทรงเป็นศาสนูปถัมภก สนับสนุนในการทำ
สังคายนา กระทำอยู่ 7 เดือน จึงเสร็จสิ้น
เหตุการณ์ต่างๆ ที่นำเสนอมาทั้งหมดนี้ เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงสุดท้ายของพระชนมชีพของ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่จะทำให้พุทธบริษัททั้ง 4 ได้เห็นความเป็นครูของโลกอย่างเช่นพระพุทธองค์ ที่ทรง
ทำหน้าที่จนวาระสุดท้ายของชีวิต โดยไม่ได้เห็นแก่ความเจ็บป่วยที่เกิดขึ้น เมื่อเสด็จไปในที่ใดก็ทรงสั่งสอนให้
สรรพสัตว์ทั้งหลายได้รู้เรื่องราวความเป็นจริงของชีวิต แล้วนำไปปฏิบัติจนเกิดประโยชน์กับตนเอง และด้วย
พระปัญญาญาณของพระพุทธองค์ ทำให้ความขัดแย้งไม่ได้เกิดขึ้นในชมพูทวีป เพราะเหตุแห่งพระบรม
สารีริกธาตุของพระองค์
ดังนั้น วาระสุดท้ายของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงเป็นสิ่งที่จะบอกให้ทุกชีวิตได้ทราบว่า ไม่ว่าใคร
ก็ตามเมื่อยังอยู่บนโลกใบนี้ ไม่อาจจะหลีกเลี่ยงจากกฎเหล็กของธรรมชาติ ที่ยังต้องมีการเกิด การแก่
การเจ็บ และการตายในที่สุด แม้พระพุทธเจ้าจะทรงเป็นผู้มีพระคุณอันประเสริฐที่สุดในโลก ก็ยังไม่อาจ
ต้านทานพญามัจจุมารได้ ดังที่พระพุทธองค์ทรงปัจฉิมวาจาไม่ให้ภิกษุสงฆ์ตั้งอยู่ในความประมาท เพราะ
สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา แต่เมื่อพระองค์เสด็จปรินิพพานแล้ว ก็มีเพียงคุณงามความดี
และพระเกียรติคุณอันสุดประมาณของพระองค์ ที่ยังประจักษ์อยู่ในโลกและยังคงอยู่ในความทรงจำ
อันงดงามของสรรพสัตว์ทั้งหลายตลอดไป
บทสรุป
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นบุคคลพิเศษที่ไม่มีบุคคลใดเสมอเหมือน เพราะเหตุที่พระพุทธองค์ได้
สั่งสมบารมีมาอย่างยิ่งยวด ตั้งแต่ชาติที่เกิดเป็นมาณพหนุ่มแบกมารดาอยู่กลางทะเล ได้สั่งสมบารมีมาโดย
ตลอดไม่ว่าจะเกิดในกำเนิดใดก็ตาม ไม่เคยที่จะท้อแท้ท้อถอยในการสร้างบารมี จึงทำให้พระพุทธองค์
สมบูรณ์พร้อมไปด้วยลักษณะมหาบุรุษและอนุพยัญชนะทั้ง 80 และด้วยการฝึกฝนตนเองมาตลอดต่อเนื่อง
ในทุกชาติที่เกิดมา จึงทำให้พระพุทธองค์งดงามไปด้วยจริยาวัตรอันเหมาะสมกับการเป็นต้นแบบและการทำ
หน้าที่เป็นครูของโลก ดังนี้
มหาปรินิพพานสูตร, ทีฆนิกาย มหาวรรค, มก. เล่ม 13 ข้อ 98 หน้า 280
170 DOU ศาสตร์แห่งการเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า