ข้อความต้นฉบับในหน้า
บุคคล
อัจฉริยมนุษย์..... กาลกิริยาของบุคคลผู้เป็นเอกเป็นเหตุแห่งความเสียใจของคนเป็นอันมาก
ผู้เป็นเอก..... ย่อมเกิดขึ้นเป็นผู้ไม่มีที่สอง ไม่มีใครเช่นกับพระองค์ ไม่มีใครเปรียบ..... เป็นผู้เลิศกว่า
สัตว์ทั้งหลาย..... ความปรากฏแห่งบุคคลผู้เป็นเอกเป็นความปรากฏแห่งจักษุใหญ่ แห่งแสงสว่างใหญ่
แห่งความรุ่งโรจน์ใหญ่ แห่งอนุตตริยะ 6 เป็นการกระทำให้แจ้งปฏิสัมภิทา 4 เป็นการแทงตลอดธาตุ
เป็นอันมากและธาตุต่างๆ เป็นการทำให้แจ้งซึ่งโสดาปัตติผล สกทาคามิผล อนาคามิผล อรหัตตผล บุคคล
เป็นผู้เอกเป็นไฉน คือพระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า”
ดังพุทธดำรัส จะเห็นได้ว่า การอุบัติขึ้นในโลกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ ถึงแม้จะมา
บังเกิดขึ้นได้เพียงครั้งละพระองค์เดียวเท่านั้น ไม่สามารถมาตรัสรู้ได้คราวละมากกว่าหนึ่งพระองค์ แต่การ
มาตรัสรู้ของพระพุทธองค์ก็เป็นประโยชน์เกื้อกูลและนำความสุขมาให้แก่สรรพสัตว์ทั้งหลายอย่างมากมาย
เพราะเมื่อเสด็จอุบัติตรัสรู้ในโลกแล้ว ทรงสั่งสอนสรรพสัตว์ทั้งหลายให้เกิดปัญญา เข้าใจความจริงอย่างที่
พระองค์ทรงรู้แจ้งเห็นจริงได้แล้ว เพื่อให้สรรพสัตว์ทั้งหลายออกจากวัฏสงสาร ไปสู่พระนิพพาน พ้นจาก
ทุกข์ทั้งปวงตามความปรารถนาที่ตั้งใจไว้จึงทำให้พระองค์ทรงเป็นเอกบุคคลที่ไม่มีใครเสมอเหมือนในทุกๆ ด้าน
นอกจากนี้ ยังทำให้โลกได้อนุตตริยะ คือ ได้สิ่งที่ยอดเยี่ยม 6 อย่าง ได้แก่ ทัสสนานุตตริยะ การ
เห็นยอดเยี่ยม คือ การได้เห็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สวนานุตตริยะ การฟังยอดเยี่ยม คือ การได้ฟังพระ
ธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ลาภนุตตริยะ การได้ยอดเยี่ยม คือ การได้ศรัทธาเชื่อในคุณของ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า สิกขานุตตริยะ การศึกษายอดเยี่ยม คือ การได้ฝึกหัดตนตามหลักไตรสิกขา ปาริจริยา
นุตตริยะ การรับใช้ยอดเยี่ยม คือ การได้รับใช้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยการฝึกหัดตนตามหลักไตรสิกขา
อนุสสตานุตตริยะ การหมั่นระลึกถึงยอดเยี่ยม คือ การหมั่นระลึกถึงพระคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
การอุบัติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ยังทำให้สรรพสัตว์ทั้งหลายทำให้แจ้งปฏิสัมภิทา 4 จึงทำให้
แทงตลอดธาตุต่างๆ เป็นอันมาก คือ การรู้และเข้าใจได้ถูกต้องในเรื่องของธาตุที่ประกอบกันขึ้นมาเป็นชีวิต
มนุษย์และสัตว์ในภพภูมิต่างๆ ได้ครบถ้วน จนทำให้สรรพสัตว์ทั้งหลายได้บรรลุผลญาณ คือ โสดาปัตติผล
สกทาคามิผล อนาคามิผลและอรหัตตผล
การอุบัติขึ้นของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในแต่ละครั้งนั้น ย่อมเป็นสภาพที่เป็นไปได้โดยยาก ต้องใช้
เวลาอย่างยาวนาน จึงจะมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาตรัสรู้สักพระองค์หนึ่ง เพราะว่าท่านเป็นบุคคลพิเศษ
ที่ได้สั่งสมบารมีเพื่อจะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยเฉพาะ ซึ่งกว่าที่จะทรงค้นพบทางสายกลาง หรือ
ที่เรียกว่า มัชฌิมาปฏิปทา ที่เป็นทางเอกสายเดียวและเป็นความยิ่งใหญ่ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทรง
ค้นพบและปฏิบัติได้รับผลสำเร็จเรียบร้อยแล้วนั้น จะต้องอาศัยความเพียรพยายามและกำลังใจอย่างมาก
ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะเป็นพระพุทธเจ้า ถึงแม้ระยะเวลาในการสร้างบารมีจะยาวนานเพียงใด กว่าบารมี
จะสมบูรณ์พร้อมทุกประการ ก็ไม่ได้ท้อถอยในระหว่างการสร้างบารมี บุคคลนั้นก็จะมาอุบัติเพื่อตรัสรู้เป็น
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วทรงยังประโยชน์เป็นอันมากแก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย ด้วยการแนะนำให้สรรพสัตว์
ทั้งหลายรู้จักทางหลีกพ้นจากโอฆสงสาร แล้วไปสู่พระนิพพาน
ฉะนั้น จึงกล่าวได้ว่าบรรดาผู้ที่ทำประโยชน์ให้แก่สรรพสัตว์ทั้งหลายในภพสามนี้ ผู้ที่จะสามารถ
เอกบุคคลวรรคที่ 13 ว่าด้วยบุคคลผู้เป็นเอก, อังคุตตรนิกาย เอกนิบาต, มก. เล่ม 32 ข้อ139 -144 หน้า 181.
* บรรจบ บรรณรุจิ, พุทธประวัติ ประสูติ ตรัสรู้, กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, 2546, หน้า 2.
32 DOU ศาสตร์แห่งการเป็น พระสัมมาสัมพุทธเจ้า