ข้อความต้นฉบับในหน้า
ความตั้งใจมุ่งมั่นมากกว่าเดิม และถ้ายังไม่ได้รับการยืนยันจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง บุคคลนั้น
ก็ยังไม่แน่นอนว่าจะได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคต จึงต้องสร้างบารมีอย่างต่อเนื่องต่อไปจนกว่าจะ
สำเร็จผล ด้วยเหตุที่กล่าวมาแล้วนี้ จึงทำให้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์เมื่อครั้งที่ยังคงสร้างบารมีเป็น
พระโพธิสัตว์อยู่ จึงแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
1. อนิยตโพธิสัตว์ คือ พระโพธิสัตว์ที่ยังไม่ได้รับการพยากรณ์จากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ก่อน
จึงยังไม่แน่ว่าจะได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นเพียงแต่ตั้งใจจะสร้างบารมีเพื่อเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น
ถึงแม้จะมีน้ำใจเด็ดเดี่ยวปรารถนามาเป็นเวลาช้านานหลายอสงไขยแล้วก็ตาม
2. นิยตโพธิสัตว์ คือพระโพธิสัตว์ที่ได้รับการพยากรณ์จากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ก่อนแล้วย่อม
เที่ยงแท้แน่นอนว่าได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
บุคคลผู้มีความปรารถนาที่จะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้สั่งสมบารมีมาอย่างต่อเนื่องด้วยความ
มุ่งมั่นตั้งใจอย่างแรงกล้า จึงได้เนมิตตกนามว่า พระโพธิสัตว์ แต่ยังมีความไม่แน่นอน บางชาติอาจพลาดพลั้ง
ไปทำอกุศลกรรม ต้องไปรับผลกรรมในอบายภูมิ เสียเวลาในการสร้างบารมี แต่เมื่อมีสติปัญญานึกได้ก็เริ่ม
สร้างบารมีใหม่ กลับไปลองผิดลองถูกอยู่เป็นเวลานาน จึงทำให้พระโพธิสัตว์ประเภทนี้เรียกว่า อนิยตโพธิสัตว์
เพราะยังไม่มีความแน่นอนที่จะได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคตหรือไม่ ยังคงต้องสร้างบารมี ฝึกฝน
ตนเองต่อไป
ส่วนพระโพธิสัตว์ประเภทนิยตโพธิสัตว์ จะมีใจที่มั่นคงตรงต่อการสร้างบารมี เนื่องจากได้รับ
พุทธพยากรณ์แล้ว จึงมีความตั้งใจที่มั่นคง ไม่หวั่นไหวต่ออุปสรรคทั้งปวง และยังทำให้มีความเพียรพยายาม
และความอดทนอย่างมากกว่าประเภทแรก เพราะการได้รับพุทธพยากรณ์เสมือนการได้รับกำลังใจจากพระ
สัมมาสัมพุทธเจ้าว่าจะได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคตอย่างแน่นอน
การสร้างบารมีของพระโพธิสัตว์ทุกพระองค์จึงต้องสร้างบารมีอย่างสุดกำลังโดยเอาชีวิตเป็นเดิมพัน
อย่างที่ไม่มีสรรพสัตว์เหล่าใดจะเสมอเหมือน และไม่ว่าพระโพธิสัตว์จะถือกำเนิดใดก็ตาม พระองค์ก็ไม่เคยที่
จะทิ้งการสร้างบารมีแม้สักชาติเดียว ยังคงมีความมุ่งมั่นตั้งใจในการสร้างบารมีอยู่ตลอดเวลา ด้วยเหตุนี้ จึง
ทำให้การเกิดของพระโพธิสัตว์ไม่สูญเปล่า มีจุดมุ่งหมายในการดำเนินชีวิตที่มั่นคงว่า วันหนึ่งยังมีโอกาสจะ
มาตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคต
ส่วนสรรพสัตว์ที่ไม่รู้เลยว่าชีวิตควรทำอะไรก็จะมีชีวิตอย่างยากลำบากเกิดแล้วตายไปอย่างสูญเปล่า
หรือเรียกว่า เกิดมาฟรีและตายฟรี ทำให้การเกิดมานับจำนวนชาติในการเวียนว่ายตายเกิดได้มากมายนับ
ประมาณชาติไม่ได้ยิ่งกว่าพระโพธิสัตว์เสียอีก และกว่าจะมีบุญพอได้เกิดมาพบพระพุทธศาสนา ได้มีโอกาส
ทำตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็เป็นการยากมาก กว่าจะรู้ว่า เราเกิดมาสร้างบารมี ก็ต้องหมด
เวลาไปมากมายทีเดียว ฉะนั้นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงเป็นเสมือนผู้หาทางออกจากที่คุมขัง คือ วัฏสงสาร
จนพ้นออกไปได้ และยังได้มีน้ำใจเปิดกรงขังให้สรรพสัตว์ทั้งหลายภายในกรงได้มีโอกาสออกจากที่คุมขังได้
ด้วยเช่นกัน
94 DOU ศาสตร์แห่งการเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า