ข้อความต้นฉบับในหน้า
จากนั้นประทับยืน ณ พระบาทที่ 7 ทรงบันลือสีหนาท เปล่งอาสภวาจา คือ วาจาอันองอาจว่า
“อคฺโคหมสฺมิ โลกสฺส เชฏโฐหมสฺมิ โลกสฺส เสฏฺโฐหมสฺมิ โลกสฺส
อยมนุติมา ชาติ นตฺถิทานิ รุ่นพุภโวติ.
เราเป็นผู้เลิศของโลก เราเป็นผู้ใหญ่ในโลก เราเป็นผู้ประเสริฐสุดในโลก
ชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย บัดนี้การเกิดอีกมิได้มี
มีข้อน่าสังเกตในประเด็นที่ว่า พระโพธิสัตว์เมื่อออกจากครรภ์พระมารดาแล้วประทับยืนและการย่าง
พระบาทออกไป 7 ก้าวนั้น มีการหยิบยกขึ้นมาวิเคราะห์กันมากว่า เป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเป็นได้บ้าง แต่งขึ้นใน
ภายหลังเพื่อให้อัศจรรย์บ้าง เพราะมีการนำมาเปรียบเทียบการแพทย์แผนปัจจุบันบ้าง หลักวิทยาศาสตร์บ้าง
แต่ในทรรศนะของผู้ศึกษาพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง ย่อมทราบว่าความอัศจรรย์อันไม่มีประมาณย่อม
บังเกิดขึ้นได้ แก่บุคคลที่สั่งสมบารมีอย่างยิ่งยวดยาวนาน จนบารมีเต็มเปี่ยม และนับว่าเป็นความอัศจรรย์
อันเป็นเรื่องธรรมดาของผู้ที่จะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ความอัศจรรย์ของพระองค์นั้นเป็นเรื่องอจินไตย เหนือ
วิสัยของคนธรรมดาที่มีปัญญาหยาบจะพิจารณาได้
สหชาติ (สิ่งที่เกิดขึ้นพร้อมกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า)
ในการประสูติของบรมโพธิสัตว์ เป็นเหตุอันอัศจรรย์ยิ่ง ยังโลกธาตุสะเทือนเลื่อนลั่นสนั่นหวั่นไหว
เป็นการแสดงความยินดีปรีดาที่ผู้มีบุญญาได้มาบังเกิดในมนุษยโลกนอกจากนี้ ความอัศจรรย์ยังมิได้หมด ยัง
มีสิ่งคู่บุญที่เกิดร่วมกับพระองค์ ในคัมภีร์มธุรัตถวิลาสินี กล่าวไว้ว่ามีอยู่ด้วยกัน 7 สิ่ง คือ
1. พระนางพิมพา
2. เจ้าอานันทะ
3. ฉันนะอำมาตย์
4. กาฬุทายีอำมาตย์
5. พญาม้ากัณฐกะ
6. ต้นมหาโพธิ์พฤกษ์
7. ขุมทรัพย์ทั้ง 4 ขุม
5.3 พราหมณ์บัณฑิตพยากรณ์พระลักษณะอันประเสริฐ
ชนชาวนครทั้งสอง ได้พาพระมหาบุรุษไปยังกรุงกบิลพัสดุ์ ในวันนั้นนั่นแล หมู่ทวยเทพในชั้น
ดาวดึงส์ร่าเริงยินดีว่า พระราชโอรสของพระเจ้าสุทโธทนะมหาราชอุบัติแล้วในนครกบิลพัสดุ์พระราชกุมาร
นี้จักประทับนั่ง ณ โคนโพธิพฤกษ์แล้วจักเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
124 DOU ศาสตร์แห่งการเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า