ข้อความต้นฉบับในหน้า
บทที่ 3
คุณสมบัติและคุณธรรมที่ทําให้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ความน่า
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์ต่างต้องสั่งสมบารมีและฝึกฝนตนเองมาเป็นระยะเวลายาวนานมาก
โดยอย่างน้อยต้องสร้างบารมีมา 20 อสงไขยกับแสนมหากัป หรือถ้าสร้างบารมีอย่างมากที่สุดก็ใช้เวลา 80
อสงไขยกับแสนมหากัป จึงจะมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้นสักพระองค์หนึ่ง ซึ่งเป็นการยากอย่างยิ่ง
ที่เป็นเช่นนี้เพราะว่าบุคคลที่มีความคิดปรารถนาที่จะหลุดพ้นจากทุกข์แห่งวัฏสงสารนี้ด้วยตนเอง และ
ปรารถนาที่จะช่วยเหลือสรรพสัตว์ที่ล้วนแต่มีความทุกข์เป็นพื้นฐาน ซึ่งต่างก็ปรารถนาที่จะหลุดพ้นจาก
ความทุกข์ทรมาน เพียงแต่ไม่รู้ว่า อะไรคือสาเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ และหนทางที่จะนำไปสู่ความดับทุกข์นั้น
จะต้องปฏิบัติอย่างไร ความไม่รู้นี้เองทำให้หลงเวียนวนในสังสารวัฏอย่างไม่รู้จักจบสิ้น ดังนั้นบุคคลผู้
ปรารถนาที่จะหลุดพ้นจากทุกข์นำพาสรรพสัตว์ทั้งหลายให้พ้นจากกองทุกข์ บุคคลที่มีความคิดเช่นนี้ ชื่อว่า
เป็นบุคคลพิเศษกว่าบุคคลทั่วไป เพราะมีจิตใจกว้างขวาง มีน้ำใจต่อสรรพสัตว์ในโลก และได้สั่งสมบารมีมา
อย่างต่อเนื่องตามลำดับ ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจและด้วยความเพียรพยายาม ประกอบกับความอดทนต่อสู้กับ
อุปสรรคปัญหาต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในระหว่างเส้นทางการสั่งสมบารมี ถึงแม้จะยังไม่รู้ว่าจะประสบผลสำเร็จ
เมื่อใด ก็ไม่ได้ท้อแท้ท้อถอย และแม้จะผิดพลาดทำอกุศลกรรมจนต้องไปรับผลของการกระทำในอบายภูมิ
ก็ยังไม่ลืมความปรารถนาที่ตั้งเป้าหมายไว้ เมื่อกลับมาเกิดในมนุสสภูมิอีก ยังคงมุ่งมั่นตั้งใจสั่งสมบารมี
ฝึกฝนตนเองเรื่อยไป ด้วยความเพียรพยายามและอดทน จนกว่าบารมีจะเต็มเปี่ยมบริบูรณ์ เพื่อเป้าหมายที่
จะมาตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคต
การที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์ ต่างต้องสั่งสมบารมีและฝึกฝนตนเองด้วยความอดทน
มุ่งมั่นมาอย่างยาวนานเช่นนี้ เพื่อจะได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและนำพาสรรพสัตว์ทั้งหลายออก
จากวัฏสงสารนี้ไปด้วย จึงทำให้พระพุทธองค์ได้สั่งสมความดี ปลูกฝังนิสัยที่ดี ขจัดนิสัยที่ไม่ดี ที่จะเกิดขึ้นกับ
พระองค์เองในทุกชาติที่สร้างบารมี ซึ่งพระองค์ก็ได้แก้ไข ปรับปรุงตนเองตลอดเส้นทางการสร้างบารมี
อย่างไม่หวั่นไหวต่อสิ่งใดๆ ทั้งสิ้น ด้วยเหตุเหล่านี้ ทำให้พระพุทธองค์ทรงมีลักษณะที่แตกต่างไปจาก
พระปัจเจกพุทธเจ้า ต่างจากพระอรหันต์และต่างจากบุคคลทั่วไป ในด้านคุณสมบัติและคุณธรรม ซึ่งการ
ฝึกฝนตนเองของพระองค์ด้วยคุณธรรมอันยิ่งยวด จึงก่อให้เกิดผลเป็นคุณสมบัติและคุณธรรมที่เลิศกว่า
บุคคลในโลก ที่ส่งผลให้พระองค์เป็นผู้ทรงคุณค่า เป็นที่เทิดทูนบูชาของมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย อย่างไม่มี
บุคคลใดเสมอเหมือน เป็นเอกบุคคลที่อุบัติขึ้นเพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่สรรพสัตว์ทั้งหลายอย่างแท้จริง
ดังนั้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงเป็นบุคคลต้นแบบและเป็นบุคคลตัวอย่างของโลกที่ไม่มีบุคคลใด
ทัดเทียมได้ด้วยเหตุที่ฝึกฝนตนเองอย่างยิ่งยวดจนทำให้พระองค์ประกอบไปด้วยคุณธรรมที่ยิ่งกว่าบุคคลทั่วไป
ซึ่งทุกคนก็สามารถจะเป็นอย่างพระองค์ได้ ถึงแม้จะยังไม่มีความคิดถึงขั้นปรารถนาเป็นพระสัมมาสัมพุทธ
เจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคต แต่สามารถที่จะนำแบบอย่างในการฝึกฝนตนเองของพระองค์มาปฏิบัติใช้กับตนเอง
ให้เกิดมีนิสัยที่ดีและรักในการสร้างบารมีอย่างเช่นที่พระองค์ทรงทำได้แล้ว ก็จะทำให้ทุกคนได้ปลูกฝังความ
50 DOU ศาสตร์แห่งการเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า