ข้อความต้นฉบับในหน้า
สังสารวัฏเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ยากสำหรับคนทั่วไป ที่มิได้มีความศรัทธาในคำสอนของพระสัมมา
สัมพุทธเจ้า มีคนจำนวนมากมีความเข้าใจว่า คนเราเมื่อตายแล้วสูญ ไม่ต้องกลับมาเกิดใหม่อีก จึงดำเนิน
หรือบางพวกที่เข้าใจเรื่องการเวียนว่ายตายเกิด แต่ก็
ชีวิตตามความพอใจของตน ไม่คำนึงถึงหลักศีลธรรม
ไม่ทราบวิธีการที่จะหลุดพ้นจากสังสารวัฏนี้ได้อย่างไร
มนุษย์มีปัญญาความรอบรู้อยู่ในขอบเขตจำกัด มักจะรู้เฉพาะประสบการณ์ชีวิตของตนที่ผ่านมาใน
ปัจจุบันชาตินี้เท่านั้น ไม่รู้ไปถึงชาติในอดีตและชาติต่อไปในอนาคต มีเพียงบางพวกเท่านั้นที่พอรู้บ้าง เช่น
พวกฤๅษีชีไพรที่บำเพ็ญเพียรทางจิต สามารถระลึกชาติย้อนหลัง หรือไปยังข้างหน้าได้ แต่ระลึกได้จำนวนชาติ
ที่จำกัด รู้เพียงบางส่วน รู้ไม่ครบวงจร ที่เรียกว่า รู้รอบ รู้แจ้ง ทำให้ความรู้ยังไม่ถูกต้องสมบูรณ์ตามความ
เป็นจริง
ส่วนสัตว์บางภูมิ เช่น สัตว์นรก เปรต อสุรกาย เทวดา พรหม เวลาเกิดขึ้น ไม่ได้เกิดในครรภ์มารดา
เหมือนมนุษย์ แต่เกิดแล้วโตทันที สัตว์เหล่านี้สามารถจำเหตุการณ์ในชาติเก่าของตนได้บ้าง จะจำได้เพียง
ชาติเดียว หรือที่เพิ่งตายมาย้อนหลังได้เพียงไม่กี่ชาติ แต่ย่อมไม่รู้ถึงซึ่งอนาคต
เมื่อเป็นเช่นนี้ มนุษย์หรือแม้แต่สัตว์ในสุคติภูมิย่อมไม่สามารถรู้ได้ว่า ภพ 3 เป็นที่คุมขังพวกตน
ให้วนเวียนตายแล้วเกิด เกิดแล้วตายไม่มีวันจบสิ้น เกิดครั้งใดก็ไม่มีทางรอดจากความทุกข์ ความทุกข์เป็น
สภาพที่ทนได้ยาก แม้รู้จักทุกข์กันดีก็จริง แต่ไม่รู้จักวิธีการดับทุกข์
ครั้นเมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จอุบัติตรัสรู้ขึ้นในโลกมนุษย์ พระปัญญาธิคุณของพระองค์
กว้างขวางไม่มีประมาณไม่มีขอบเขตจำกัด พระองค์ทรงรู้แจ้งแทงตลอดด้วยญาณทัสสนะอันบริสุทธิ์ใน
ความเป็นไปของสรรพสัตว์สรรพสิ่งทั้งปวงทรงรู้แจ้งเห็นแจ้งซึ่งพระนิพพานอันเป็นสถานที่หลุดพ้นจากภพสาม
เป็นที่ไม่มีเกิดไม่มีตาย ตลอดถึงทรงทราบวิธีปฏิบัติเพื่อการเลิกเวียนว่ายตายเกิด พระองค์ทรงพบว่า มนุษย์
นั้นยังตกอยู่ในอำนาจกิเลส เป็นเหตุให้ก่อกรรมนำไปสู่วิบากในภพทั้ง 3 การเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในภพทั้ง 3
จึงเสมือนกับคุกที่กักขังสรรพสัตว์ ให้หมดอิสรภาพ ไม่เป็นตัวของตัวเอง ถูกกิเลสบังคับชักนำให้สร้างกรรม
เกิดวิบาก วนเวียนตายเกิด ได้รับทุกข์ทรมานอยู่ในภพภูมิต่างๆ อย่างไม่มีวันสิ้นสุด แม้โลกมนุษย์เองก็เป็น
คุกย่อยในคุกใหญ่ คือ ภพ 3
บางคนอาจจะนึกไม่ถึงว่าชาวสวรรค์ ก็ยังมีความทุกข์ด้วยหรือ ในที่นี้ขอกล่าวถึงสภาพความทุกข์
ของสรรพสัตว์ทั้งหลายในภพสามที่เปรียบเสมือนคุกขังสรรพสัตว์
สัตว์นรก ทุกข์เพราะถูกลงโทษทัณฑ์ทรมานด้วยประการต่างๆ อย่างโหดร้ายทารุณถึงที่สุดจาก
นายนิรยบาล
เปรต ทุกข์เพราะความหิวโหย ความห่วงใยในคนที่ผูกพัน
อสุรกาย ทุกข์เพราะความหวาดกลัว ไม่มีที่อยู่ ที่กิน
สัตว์เดรัจฉาน ทุกข์เพราะเรื่องการหาอาหารเลี้ยงชีพเป็นสำคัญ
มนุษย์ ทุกข์เพราะต้องเกิด แก่ เจ็บ ตาย เศร้าโศกเสียใจด้วยเรื่องต่างๆ
เทวดา ทุกข์เพราะมีสมบัติไม่เท่าเทียมผู้อื่น (ติดในกามคุณอารมณ์)
พรหม ทุกข์เพราะความเป็นผู้มีรัศมีสว่างไสวไม่เท่าผู้อื่น (มีสักกายทิฏฐิและมานะ)
อย่างไรก็ดี สรรพสัตว์ทุกชีวิต ไม่ว่าจะเกิดในภพภูมิใดๆ มักจมอยู่กับทุกข์ในภพที่ตนอยู่จนเป็น
14 DOU
ศาสตร์แห่งการเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า