ลักษณะมหาบุรุษและคุณสมบัติทางธรรม GL 204 ศาสตร์แห่งการเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หน้า 82
หน้าที่ 82 / 209

สรุปเนื้อหา

ลักษณะมหาบุรุษ 32 ประการ เป็นสิ่งที่กำหนดความเป็นผู้นำทั้งทางโลกและทางธรรม หากยังไม่บวช จะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ แต่หากบวชแล้วจะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า การสั่งสมบุญบารมีนั้นสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้ได้มาซึ่งลักษณะมหาบุรุษ ซึ่งจะนำไปสู่การตรัสรู้และการสอนสรรพสัตว์ให้หลุดพ้นจากทุกข์เป็นไปในเส้นทางธรรม การมีลักษณะเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องอาศัยกุศลธรรมที่สั่งสมมาอย่างยั่งยืนในชีวิตก่อนๆ

หัวข้อประเด็น

- ลักษณะมหาบุรุษ 32 ประการ
- ความสำคัญของการบวช
- การสั่งสมบุญบารมี
- พระเจ้าจักรพรรดิ
- การตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ผู้ได้ลักษณะมหาบุรุษ เป็นผู้ที่มีบุญอันสั่งสมดีแล้ว แม้ไม่ได้ออกบวชก็ย่อมถึงความเป็นใหญ่ในโลก ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ถ้าออกบวชก็จะได้ตรัสรู้ธรรมอย่างแน่นอน ดังที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ว่า “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พระมหาบุรุษผู้ประกอบด้วยมหาปุริสลักษณะ 32 ประการ เหล่านี้ ย่อม มีคติเป็นสองเท่านั้น ไม่เป็นอย่างอื่น คือ ถ้าครองเรือน จะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิผู้ทรงธรรม เป็นธรรมราชามีมหาสมุทร 4 เป็นขอบเขต ทรงชนะแล้ว มีอาณาจักรมั่นคงประกอบด้วย รัตนะ 7 ประการ คือ จักรแก้ว ช้างแก้ว ม้าแก้ว แก้วมณี นางแก้ว คฤหบดีแก้ว ปริณายกแก้ว เป็นที่ 7 พระราชบุตร ของพระองค์มีกว่าหนึ่งพัน ล้วนกล้าหาญ มีรูปทรงสมเป็นวีรกษัตริย์ สามารถย่ำยีเสนาของข้าศึกได้ พระองค์ทรงชนะโดยธรรม โดยเสมอ มิต้องใช้อาชญา มิต้องใช้ศัสตรา ครอบครองแผ่นดิน มีสาคร เป็นขอบเขต มิได้มีเสาเขื่อน ไม่มีนิมิต ไม่มีเสี้ยนหนามมั่งคั่งแพร่หลาย มีความเกษมสำราญ ไม่มีเสนียด ถ้าเสด็จออกบวชเป็นบรรพชิตจะได้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า มีหลังคา คือกิเลสอันเปิดแล้ว ในโลก”1 ดังพุทธดำรัสข้างต้น จะเห็นได้ว่า ลักษณะมหาบุรุษ 32 ประการนี้ เป็นลักษณะของผู้นำทั้งทาง โลกและทางธรรม คือ ถ้าไม่ได้บวช ก็จะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิเท่านั้น แต่ถ้าออกบวชก็จะได้เป็นพระ สัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น ดังตอนที่พระองค์จะออกบวชมีมารมาขัดขวางโดยให้รออีก 7 วัน ก็จะมีสมบัติของ พระเจ้าจักรพรรดิเกิดขึ้นแก่พระองค์ แต่ที่ทราบกันเป็นอย่างดีแล้วว่า คติของกายมหาบุรุษย่อมเป็นหนึ่ง คือ ย่อมออกบวชและได้ตรัสรู้ธรรมเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างแน่นอน ดังนั้น การได้ลักษณะมหาบุรุษนั้น เป็นสิ่งที่ยาก เป็นกายสุดท้ายแห่งสังสารวัฏ เป็นกายที่สมบูรณ์ แบบ จะต้องสั่งสมบุญบารมีให้มากมายมหาศาล เมื่อบุญบารมีเต็มเปี่ยมก็จะได้มาซึ่งลักษณะมหาบุรุษ พร้อม ที่จะมาตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ให้สมกับความปรารถนามาหลายภพหลายชาติแล้ว คือ การตรัสรู้ เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วสั่งสอนสรรพสัตว์ทั้งหลายให้รู้และเข้าใจในความรู้ที่พระองค์รู้ เพื่อหลุดพ้น ไปสู่ฝั่งพระนิพพานเฉกเช่นพระองค์ ลักษณะมหาบุรุษมี 32 ประการ ดังนี้ 1. มีพระบาททั้งสองเรียบเสมอกัน หมายความว่า มีพื้นเท้าสม่ำเสมอ ทำให้เวลาพระพุทธองค์ เสด็จพระดำเนินไปในที่ต่างๆ ดูแล้วสง่างาม เดินตัวตรง นุ่มนวล เหมือนช้างทรงของพระราชา เวลาเดิน ส่วนบนจะไม่เคลื่อนไหว เดินเหมือนเหิน เนื่องจากเดินเบา ไม่ส่ายไปส่ายมา เพราะมีพื้นเท้าที่เสมอกัน ทำให้ น้ำหนักที่ลงไปสู่เท้าเวลาเดินมีน้ำหนักเท่ากัน จึงทำให้พระพุทธองค์เดินดูแล้วสง่างามมาก สาเหตุที่ทำให้พระองค์มีลักษณะเช่นนี้ เพราะในอดีตพระองค์ได้สร้างกุศลธรรมมาตลอดทั้งการ ประพฤติในกาย วาจา และใจ ตลอดจนการให้ทาน รักษาศีล บำรุงบิดามารดาและสมณพราหมณ์ เคารพ ต่อผู้ใหญ่ในตระกูลและเคารพในการบำเพ็ญอธิกุศล 2. พื้นใต้ฝ่าพระบาทมีลายกรงจักร มีซี่กำหนึ่งพันประกอบด้วยกงและดุม เพราะพระองค์เป็น ผู้นำธรรมจักรให้หมุนไป ยังสรรพสัตว์ให้ได้บรรลุมรรคผลนิพพานนับไม่ถ้วน จึงทำให้พระองค์เดินได้อย่าง คล่องแคล่ว เพราะพื้นเท้ามีความยืดหยุ่นดีในเวลาเดิน สาเหตุที่ทำให้พระองค์ได้ลักษณะเช่นนี้ เพราะการที่พระองค์นำสุขมาให้แก่มหาชนเป็นจำนวนมาก ซึ่งต้องเป็นผู้นำตั้งแต่ในครอบครัวถึงประเทศชาติ บรรเทาความสะดุ้งหวาดกลัว ปกครองโดยธรรมให้ ลักขณสูตร, ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค, มก. เล่ม 16 หน้า 1 บทที่ 3 คุณสมบัติ และคุณธรรมที่ทำให้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า DOU 71
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More