ข้อความต้นฉบับในหน้า
ที่หนักแน่นมั่นคงอย่างมากถึงจะมาอุบัติขึ้นเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ ดังนั้นคำสอนของพระพุทธองค์จึงมี
คุณค่าอย่างมาก เพราะพระองค์ทรงสั่งสมความรู้ที่เต็มเปี่ยมบริสุทธิ์บริบูรณ์มาอย่างมากตลอดหนทางใน
การสร้างบารมี
ฉะนั้นจึงควรที่จะศึกษาคำสอนของพระพุทธองค์อย่างจริงจัง แล้วนำมาปฏิบัติให้เกิด
ประโยชน์กับตนเองและผู้อื่นเหมือนกับที่เป็นประโยชน์กับพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาแล้วนับพระองค์ไม่ถ้วน และ
ยังเป็นประโยชน์แก่สรรพสัตว์ทั้งหลายอีกด้วย
2.5.2 กัปที่มีพระพุทธเจ้ามาบังเกิดขึ้น
ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น จะเห็นได้ว่า ใน 1 มหากัป มีระยะเวลาที่ยาวนานมาก และกว่าที่จะมี
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าสักพระองค์หนึ่งมาอุบัติขึ้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย จึงทำให้สรรพสัตว์ทั้งหลายต้องเวียนตาย
เวียนเกิดหลายภพหลายชาติ กว่าที่จะได้ฟังพระสัทธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และก็ไม่แน่ว่าพระสัมมา
สัมพุทธเจ้าจะเสด็จอุบัติขึ้นในโลกนี้ทุกมหากัปเสมอไป บางมหากัปก็ไม่มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้น
ฉะนั้น การที่บุคคลผู้ทรงคุณวิเศษเป็นนิยตโพธิสัตว์ จะเสด็จมาตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น
เป็นการยากมาก และกว่าที่สรรพสัตว์ทั้งหลายจะได้ฟังพระสัทธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ยิ่งยากมาก
อีกด้วย ดังพระดำรัสของพระองค์ที่ตรัสว่า “การฟังพระสัทธรรมเป็นของยาก การอุบัติขึ้นแห่ง
พระพุทธเจ้าทั้งหลายเป็นการยาก” แต่เมื่อนิยตโพธิสัตว์เสด็จมาอุบัติขึ้นบนโลกนี้เพื่อตรัสรู้เป็นพระสัมมา
สัมพุทธเจ้าในมหากัปใด มหากัปนั้นย่อมไม่ว่างเปล่าจากคุณวิเศษอันยิ่งใหญ่ คือ มรรคผลนิพพาน และ
มหากัปนั้น จะถูกเรียกว่า อสุญกัป เมื่อเป็นอย่างนี้ จึงอาจแบ่งมหากัปออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ สุญกัป
และอสุญกัป
1. สุญกัป หมายถึง มหากัปที่ว่างเปล่าจากมรรคผลนิพพาน คือ ไม่มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จ
อุบัติขึ้นในโลก แม้เพียงพระองค์เดียว และในสุญกัปนี้ก็ยังไม่มีพระปัจเจกพุทธเจ้า หรือพระเจ้าจักรพรรดิมา
บังเกิดขึ้น ในสุญกัปนี้ย่อมว่างเปล่าจากบุคคลผู้ทรงคุณวิเศษ และไม่มีมรรคผลนิพพานปรากฏขึ้น
2. อสุญกัป หมายถึง มหากัปที่ไม่ว่างเปล่าจากมรรคผลนิพพาน คือ มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จ
อุบัติขึ้นในโลกถึงแม้มีเพียงหนึ่งพระองค์ในมหากัปก็ถือว่าเป็นอสุญกัป และในอสุญกัปนี้ยังมีพระปัจเจกพุทธเจ้า
หรือพระเจ้าจักรพรรดิมาบังเกิดขึ้น นอกจากนี้ยังมีบุคคลผู้ทรงคุณวิเศษปรากฏเกิดขึ้นอีกด้วย และอสุญกัป
ที่มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาอุบัติขึ้นนี้ ยังมีชื่อเรียกตามจำนวนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่เสด็จอุบัติขึ้นใน
แต่ละมหากัป ดังต่อไปนี้
สารกัป หมายถึง มหากัปที่มีแก่นสาร เป็นมหากัปที่มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้น 1
พระองค์
มัณฑกัป หมายถึง มหากัปที่มีความผ่องใส เป็นมหากัปที่มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้น
2 พระองค์
วรกัป หมายถึง มหากัปที่ประเสริฐ เป็นมหากัปที่มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้น 3 พระองค์
1 เรื่องนาคราชชื่อเอรกปัตตะ, ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท, มก. เล่ม 42 หน้า 329.
บทที่ 2 ธ ร ร ม ช า ติ ข อ ง พระสัมมาสัมพุทธเจ้า DOU 41