การศึกษาและคุณค่าของคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า GL 204 ศาสตร์แห่งการเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หน้า 52
หน้าที่ 52 / 209

สรุปเนื้อหา

บทความนี้กล่าวถึงความสำคัญของคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ผ่านมาเป็นแหล่งความรู้และโอกาสในการทำความดี สำหรับสรรพสัตว์ และชี้ให้เห็นถึงความยากลำบากในการเกิดขึ้นของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในแต่ละมหากัป ทั้งสองประเภทของมหากัป ได้แก่ สุญกัป และอสุญกัป ได้ถูกกำหนดให้มีพระพุทธเจ้าที่อุบัติขึ้น โดยมีการแบ่งประเภทตามจำนวนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และการประ benefit ของการศึกษาคำสอนนี้ในปัจจุบันเทียบกับสมัยก่อน โดยรวมแล้วบทความแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการศึกษาและปฏิบัติตามคำสอน.

หัวข้อประเด็น

-ความสำคัญของคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
-การเกิดขึ้นของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในมหากัป
-ประเภทของมหากัป: สุญกัป และ อสุญกัป
-มรรคผลนิพพานในมหากัป
-การศึกษาพุทธศาสนาในปัจจุบัน

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ที่หนักแน่นมั่นคงอย่างมากถึงจะมาอุบัติขึ้นเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ ดังนั้นคำสอนของพระพุทธองค์จึงมี คุณค่าอย่างมาก เพราะพระองค์ทรงสั่งสมความรู้ที่เต็มเปี่ยมบริสุทธิ์บริบูรณ์มาอย่างมากตลอดหนทางใน การสร้างบารมี ฉะนั้นจึงควรที่จะศึกษาคำสอนของพระพุทธองค์อย่างจริงจัง แล้วนำมาปฏิบัติให้เกิด ประโยชน์กับตนเองและผู้อื่นเหมือนกับที่เป็นประโยชน์กับพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาแล้วนับพระองค์ไม่ถ้วน และ ยังเป็นประโยชน์แก่สรรพสัตว์ทั้งหลายอีกด้วย 2.5.2 กัปที่มีพระพุทธเจ้ามาบังเกิดขึ้น ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น จะเห็นได้ว่า ใน 1 มหากัป มีระยะเวลาที่ยาวนานมาก และกว่าที่จะมี พระสัมมาสัมพุทธเจ้าสักพระองค์หนึ่งมาอุบัติขึ้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย จึงทำให้สรรพสัตว์ทั้งหลายต้องเวียนตาย เวียนเกิดหลายภพหลายชาติ กว่าที่จะได้ฟังพระสัทธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และก็ไม่แน่ว่าพระสัมมา สัมพุทธเจ้าจะเสด็จอุบัติขึ้นในโลกนี้ทุกมหากัปเสมอไป บางมหากัปก็ไม่มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้น ฉะนั้น การที่บุคคลผู้ทรงคุณวิเศษเป็นนิยตโพธิสัตว์ จะเสด็จมาตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น เป็นการยากมาก และกว่าที่สรรพสัตว์ทั้งหลายจะได้ฟังพระสัทธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ยิ่งยากมาก อีกด้วย ดังพระดำรัสของพระองค์ที่ตรัสว่า “การฟังพระสัทธรรมเป็นของยาก การอุบัติขึ้นแห่ง พระพุทธเจ้าทั้งหลายเป็นการยาก” แต่เมื่อนิยตโพธิสัตว์เสด็จมาอุบัติขึ้นบนโลกนี้เพื่อตรัสรู้เป็นพระสัมมา สัมพุทธเจ้าในมหากัปใด มหากัปนั้นย่อมไม่ว่างเปล่าจากคุณวิเศษอันยิ่งใหญ่ คือ มรรคผลนิพพาน และ มหากัปนั้น จะถูกเรียกว่า อสุญกัป เมื่อเป็นอย่างนี้ จึงอาจแบ่งมหากัปออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ สุญกัป และอสุญกัป 1. สุญกัป หมายถึง มหากัปที่ว่างเปล่าจากมรรคผลนิพพาน คือ ไม่มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จ อุบัติขึ้นในโลก แม้เพียงพระองค์เดียว และในสุญกัปนี้ก็ยังไม่มีพระปัจเจกพุทธเจ้า หรือพระเจ้าจักรพรรดิมา บังเกิดขึ้น ในสุญกัปนี้ย่อมว่างเปล่าจากบุคคลผู้ทรงคุณวิเศษ และไม่มีมรรคผลนิพพานปรากฏขึ้น 2. อสุญกัป หมายถึง มหากัปที่ไม่ว่างเปล่าจากมรรคผลนิพพาน คือ มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จ อุบัติขึ้นในโลกถึงแม้มีเพียงหนึ่งพระองค์ในมหากัปก็ถือว่าเป็นอสุญกัป และในอสุญกัปนี้ยังมีพระปัจเจกพุทธเจ้า หรือพระเจ้าจักรพรรดิมาบังเกิดขึ้น นอกจากนี้ยังมีบุคคลผู้ทรงคุณวิเศษปรากฏเกิดขึ้นอีกด้วย และอสุญกัป ที่มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาอุบัติขึ้นนี้ ยังมีชื่อเรียกตามจำนวนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่เสด็จอุบัติขึ้นใน แต่ละมหากัป ดังต่อไปนี้ สารกัป หมายถึง มหากัปที่มีแก่นสาร เป็นมหากัปที่มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้น 1 พระองค์ มัณฑกัป หมายถึง มหากัปที่มีความผ่องใส เป็นมหากัปที่มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้น 2 พระองค์ วรกัป หมายถึง มหากัปที่ประเสริฐ เป็นมหากัปที่มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้น 3 พระองค์ 1 เรื่องนาคราชชื่อเอรกปัตตะ, ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท, มก. เล่ม 42 หน้า 329. บทที่ 2 ธ ร ร ม ช า ติ ข อ ง พระสัมมาสัมพุทธเจ้า DOU 41
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More