ข้อความต้นฉบับในหน้า
พระเวสสันดรเป็นพระชาติสุดท้ายที่พระบรมโพธิสัตว์บังเกิดมาสร้างบารมี เมื่อละจากอัตภาพ
มนุษย์ได้บังเกิดเป็นท้าวสันดุสิต ครองความเป็นใหญ่ในสวรรค์ชั้นดุสิต และได้ทำหน้าที่สอนธรรมะเหมือน
พร้อมรอวันที่จะจุติลงมาปฏิสนธิเป็นเจ้าชายสิทธัตถะเพื่อตรัสรู้เป็น
พระบรมโพธิสัตว์องค์ก่อนๆ
พระพุทธเจ้าองค์ต่อไปในอนาคตเช่นกัน
ในคัมภีร์ลลิตวิสตระและปฐมสมโพธิกถา กล่าวตรงกันว่า ข่าวเทพบุตรสันดุสิตจะจุตินั้น เทวดา
ต่างรู้ล่วงหน้าเป็นเวลา 1 แสนปี สันนิษฐานว่า เป็นช่วงเวลาที่โลกว่างจากพระพุทธเจ้า ได้มีการป่าว
ประกาศไปทั่วหมื่นจักรวาล โดยเหล่าพรหมชั้นสุทธาวาส เทวดาในหมื่นจักรวาลฟังการป่าวประกาศนั้นแล้ว
ต่างมาประชุมพร้อมกัน เพื่อค้นหาผู้ที่จะจุติยังโลกมนุษย์เพื่อตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขณะค้นหานั้น
กาลเวลาก็ได้ล่วงมาเนินนาน ได้พบเทพบุตรสันดุสิตเกิดบุพนิมิต อันเป็นสิ่งบอกเหตุล่วงหน้าว่าจะจุติ
ครั้นเทพบุตรสันดุสิตเกิดบุพนิมิตแล้ว หมู่เทวดาก็ทราบทันทีว่า เทพบุตรองค์นี้แหละจะจุติมาถือ
ปฏิสนธิเป็นมนุษย์เพื่อตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จากนั้นข่าวการจะจุติของเทพบุตรสันดุสิตก็กระจาย
สะพัดไปยังหมื่นจักรวาล หมู่เทวาดาทั้งหมื่นจักรวาลตั้งแต่มหาพรหมลงมา จนถึงเทวดาชั้นจาตุมหาราชิกา
ต่างมาประชุมพร้อมกัน แล้วไปยังสวรรค์ชั้นดุสิตเพื่ออัญเชิญเทพบุตรสันดุสิตให้จุติลงมาบังเกิดเป็นมนุษย์
ในมนุษยโลก เพื่อจะได้บรรลุสัพพัญญุตญาณ เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อโปรดสั่งสอนสรรพสัตว์ให้หลุด
พ้นจากกองทุกข์ สมดังที่พระองค์ได้บำเพ็ญบารมีตั้งพระทัยไว้แต่แรก
ทรงพิจารณาปัญจมหาวิโลกนะ
ในกาลนั้น พระโพธิสัตว์ฟังคำกล่าวอันเชิญแล้ว ยังมิได้รับคำในทันที จะต้องทรงต้องพิจารณา
ปัญจมหาวิโลกนะ คือ การตรวจดูอย่างละเอียดในเรื่องสำคัญ 5 ประการ คือ
ตรวจดูกาล โดยตรวจดูอย่างละเอียดว่า ถึงเวลาที่จะจุติเกิดเป็นมนุษย์เพื่อตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัม
พุทธเจ้าได้หรือยัง เงื่อนไขสำคัญ คือ อายุของคนในยุคนั้นๆ ถ้าเจริญขึ้นเกินแสนปีไม่ใช่กาลอันสมควร ด้วย
เหตุว่า ในกาลที่มนุษย์มีอายุเกินแสนปี ชาติ ชรา มรณะ จักไม่ปรากฏแก่สัตว์ทั้งหลาย เมื่อพระสัมมาสัม
พุทธเจ้าตรัสถึงอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา สัตว์ทั้งหลายย่อมไม่เข้าใจในพระดำรัสนั้น ฉะนั้นการบรรลุมรรคผลก็
จะไม่มีเมื่อไม่มีการบรรลุมรรคผล ศาสนาจะไม่ดำรงอยู่ได้ แม้ในกาลที่อายุต่ำกว่าร้อยปี ก็ยังมิใช่กาลอันสมควร
เพราะในกาลนั้น สัตว์ทั้งหลายมีกิเลสหนาแน่น โอวาทที่จะทรงสั่งสอนแก่สัตว์ผู้มีกิเลสหนาก็จักไม่เป็นผล
เหมือนรอยไม้ที่ขีดในน้ำ จึงเป็นกาลที่ไม่สมควร ในกาลแห่งอายุตั้งแต่แสนปีลงมา และตั้งแต่ร้อยปีขึ้นไป
ชื่อว่าเป็นกาลอันสมควร ก็ในกาลนั้นเป็นเวลาร้อยปี พระบรมโพธิสัตว์จึงทรงเห็นว่าเป็นกาลที่ควรบังเกิด
ตรวจดูทวีป ในบรรดาทวีปทั้ง 4 คือ อุตตรกุรุทวีป อปรโคยานทวีป ปุพพวิเทหทวีป และชมพูทวีป
ทรงเห็นว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย ไม่เกิดในทวีปทั้ง 3 แต่เกิดในชมพูทวีปเท่านั้น เพราะชาวชมพู
ทวีปมีคุณสมบัติพร้อมที่จะรองรับคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธได้ และพระชนก พระชนนีนี้ก็เกิดในชมพูทวีป
จึงทรงพิจารณาว่า จักเกิดในชมพูทวีป
ตรวจดูประเทศ ตรวจดูประเทศหรือดินแดนส่วนใดในชมพูทวีปสมควรจะเป็นถิ่นกำเนิดของ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็พบว่าดินแดนชมพูทวีป แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ปัจจันตประเทศ ได้แก่ดินแดนรอบ
ลลิต. หน้า 20, ปฐมสมโพธิ, หน้า 37.
บทที่ 5 พุทธประวัติพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันช่วงปฐมกาล DOU 121