ข้อความต้นฉบับในหน้า
คณะสำนักงานเขตจังหวัดปากน้ำ ๒๕๕๙ (๒๕๕๙-๒๕๕๙) 220
สันท, สัมพะ ว. สรรพ, ทุกสิ่ง, ทั่วไป, ทั่งหมด(ป. สพพ: ส. สรรพ). (พนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๒๖ หน้า ๓๓๙)
นาม, นาม- (นามมะ-) น. ชื่อ, ราชาศัพท์ว่า พระนาม; คำมินดหนึ่งในไวอารณ์ สำหรับเรียกคุณ ตั้วร์ และสิ่งของต่างๆ สิ่งที่ไม่รูป คือ จิตใจ คำนี้ว่า รูป. (ล.) ในหนังสือกูมิฉบับนี้ จะให้ความหมายของคำว่า "สันทพม" ว่า "นามสร้างรับใช้แทนชื่อ นามที่ออกชื่อมาแล้วข้างต้น เพื่อให้เป็นการซ้ำ ฯ ชาก ฯ ซึ่งพิมแล้วไม่เพราะเท่า" การแบ่งประเภทของสันทพม ตัวอย่างทั้งสองที่ยกขึ้นมาถึงนี้ ลองนึกเปรียบเทียบดูว่า มือนคือบ่งแตงแต่นาม นามที่ออกชื่อมาแล้วเป็นแตงนามนาม คำว่าจากจริงหมดไป ดังนั้นเป็นการถูกต้องตามวิธีกรรมที่นิยมใช้กันอยู่ทั่วๆ ไป นะจะ คำสันทพม จึงต้องมีหน้าที่นามนาม ที่ออกชื่อมาแล้ว เพื่อป้องกันคำซ้ำก่อนไม่ซ้ำและท่านแบ่งคำนี้ออกเป็น ๒ คือเป็น บริสสันทพม วิสสนสัพพนาม ๑.
ปุริสสันทพม น่าจะทำความเข้าใจก่าว่า ปุริส ซึ่งอยู่หน้าสันนามนิ้นก่อนคำนี้แปลกกันว่า บุรุษ หรือผู้ชาย แต่นางใส่ไว้อารมณ์ไม่ได้หมายความว่า เป็นคำสำหรับในผู้ชายอย่างเดียว แต่อาจเป็นผู้หญิงหรือใช้ก็ตามความหมายเช่นเดียวกัน คือ ปุริส ย่อมความหมายที่จะทำหน้าที่แทนคำนามที่ออกชื่อมาแล้ว แล้วโวหารที่ยึมใช้กันอยู่ในส่วนหนึ่งของบาอารณ์ เพื่อเป็นเครื่องหมายสำหรับใช้เรียกชื่อคำแต่ประเภทนี้เท่านั้น แต่ความยุ่มยามทางก็มีว่าว ไป ตั้งกล่าวแล้ว.