ข้อความต้นฉบับในหน้า
วิธีใช้ ดูมโนและ อุมม
ทั้งสองนี้ สำหรับใช้ทานนามดูมม ตั้งกล่าวแล้ว และจะต้องนําไป
แกล้งวัดติเตียนก่อนเหมือนชื่อทั้งหลายอื่น แต่การจะแจกวัดนี้ ก็แจกมีรูปอย่าง
เติบกันทั้ง ปุสฺ์ศ และอิตถีริงค์ ดังที่ท่านแสดง ไว้ในแบบนามนั้นแล้ว
นามนาม ซึ่งเป็นศุภนาม จะเป็นยังไงก็อะไร ดูมม อุมม ทั้ง ๒ นี้ ก็ยังอยู่เช่นนั้น
ไม่เปลี่ยนไปตาม และการปล่อยออกชื่อคำแปล ดูมม อุมม นี้โดยตรงกันกับหัวนาม
ที่ออชื่อถึง และเป็นรูปชื่อพวนก็ปลอดภัย กับปลอดภัย กับ ดูมม อุมม
เช่น โช อนว่าเขา เป็นต้น ถ้าเป็นเวซสนัชนาม ก็นปลว่า นั้น โดยไม่ต้อง
ออกชื่ออายตนบตเตะต้องโยคด้วยนามนามที่กล่าวแล้วข้างต้นตามด้วย เช่น โส โน่
อันว่าคนนั้น.
อันนี้ เขาเฉพาะ ดูมม ศัพท์นี้ เมื่อสูนทางจะเผยความเทวา ในเมื่ออุพฺพุ เป็นผู้เล็ก อีกฝ่ายหนึ่งซึ่งเป็นผู้ใหญ่ เป็นผู้พูดทางฝ่ายผู้พูดต้องเรียกนามผู้ใหญ่นั้น
ด้วย ดูมม นี้เป็นพุทวจนะ เช่น
ศิษย์เข้าไปพูดกับอาจารย์ว่า (ดูมม) อปฺรสุปฺสุ เกรศสุ ดูนฺก ดูนฺงสุส แปลว่า
ขอท่านจงแสดงดูคนของพระเจ้าอีกว่า
และโสมทีได้พูดคู่กับบิดาของเขาว่า ดูมหมเห ราชกูล คณฺฑวา เอวํ
อภิกมิมดูพ แปลว่า อันท่านไปแล้วสรุกาษุ พึงก้าวไปข้างหน้าอย่างนี้.
ทั้ง ๒ อุทาหรณ์ จะเห็นได้ว่า ดูมม ก็ดี ดูมเหตุ ก็ดี เป็นพุทวจนะสำหรับ
ใช้ทนอาจารย์คนเดียว และบิดาคนเดียว ในฐานะที่ยังยืนบุครแสดงความเคารพ
ต่อผู้ใหญของตน และจะไม่ต้องออกชื่อพุทวจนะ ว่าทั้งหลาย ในเวลานั้นก็ได้.