ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค- คำฉีพระธรรมปฐกถา ยอห์ไมรู้ คำดี ซึ่งคิด ยลสุ ปุคคลสุด ของบุคคลใด อ้า อ. เรา พุธมิ ยอมเรียก ตำ ปุคคล ซึ่งบุคคลนั้น ฉินาดล ผู้ มีอาสะสินแล้ว อารณุต ผู้เป็นพระอรหันต์ พราหมณ์ว่าเป็นพรหมณ์ ดีจี ตั้งนี้ๆ อโท ฉ อรรถว่า โย ปุคคลใด ชนาดติ ย่อมรู้ จิตดี จึ่งการฉวัสช่วย ปกิณรี ป ชึ่งการปฏิสันถาร สตทาน แห่งสัตว์ ท. สุขพาณารน โดยอาการทั้งปวง กวดา กระทำ ปกิณ ให้ปรากฏแล้ว อห อ. เรา วามี ย่อมเรียก ตำ ปุคคล ซึ่งบุคคลนั้น อสตติ ชื่อว่าผู้ไม่มีแล้ว (อุตโน) อดคตาย เพราะความที่แห่ง ตนเป็นผู้ไม่บ้องแล้ว สุตติ ชื่อว่าผู้ไปแล้วแล้ว (อุตโน) สุขสุดตา เพราะความที่แห่งตนเป็นผู้ไปแล้วด้วย อนติ ปฏิปทา ด้วยการปฏิบัติ พุทธิ ชื่อว่าผู้ไปแล้ว ขอญาณ สุญา (อดทนา) พุทธาย เพราะ ความที่แห่งสังจะ ท. ๔ เป็นธรรมชาติอันดนรู้แล้ว พราหมณ์ว่าเป็น พรหมณ์ดีอิติ ดังนี้ ตกุ ปณุต ในบาป ท.หลานนั้นหนา (ปทุวาสสุ) แห่งหมวดลองแห่งวา โอ เวที อิติ ดังนี้เป็นต้น ๆ อโท อรรถว่า เทวาทโย สตุตฺ อ.สัตว ท. มีเทวา เป็นดัง เอเต หลานั้น น ชานนิติ ย่อมไม่รู้ คดี ซึ่งคิด ยลสุ ปุคคลสุ ของบุคคลใด อ้า อ. เรา วามี ย่อม เรียก ตำ ปุคคล ซึ่งบุคคลนั้น ชินานวา ชื่อว่าผู้อาสะสินแล้ว อาสวนี ชินาดาย