ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อธิบายความสัมพันธ์ เล่ม ๑ - หน้าที่ 171
สมานกาลภิริยา
ค. ถ้าเป็นกิริยาที่พร้อมกันกับกิริยาอื่น เรียกว่า สมานกาลภิริยา อุตต์ คณะดุ คณะดุ ในที่นี้มีประสงค์คำดินกันร่วมไม่ได้มุ่งกิริยาที่จับร่วมกันก่อนแล้ว จึงไป
อธิบาย: [๑] ข้อว่าเป็นกิริยาที่ทำพร้อมกันกับกิริยาอื่นนั้น คือ เป็นกิริยาที่ทำควบพร้อมกันไปกับกิริยาอื่น โดยมากกับกิริยาข้างหลัง
ตน เช่น อู:-
อุตต์ คณะดุ คณะดุ (ในแบบ) เดินกันร่ม คณะดุ
สมานกาลภิริยาใน คณะดุ คำว่าหมายเอาว่า จับร่วมก่อนแล้วจึงไป
คณะดุ เป็นปุพพากาลภิริยาใน คณะดุ คำที่ได้กล่าวแล้ว ในข้อปุพพากาลภิริยา. เพราะเหตุนี้ ก่อนที่จะบอกสัมพันธ์ พึงสังเกตความหมายในตอนนั้นก่อน: ถ้าหมายเอาว่าทำกิริยานั้นก่อนแล้ว จึงทำกิริยาอื่นต่อไป ก็เป็นปุพพากาลภิริยา ถ้าหมายเอาว่าทำควบพร้อมกันไปกับกิริยาอื่น ก็เป็นสมานกาลภิริยา ข้อนี้ในการแปลมีให้คำว่า แล้ว เช่น คณะดุ เปล่าว่า คือ หรือ กัน เฉย ๆ สมานกาลภิริยา เมื่อเพิ่งเข้า อาจพบได้บ่อย ๆ แต่ถ้าไม่เพิ่งก็จะเอาเป็นปุพพากาลภิริยาไปหมด ซึ่งเป็นการผิดความหมายที่เดียว
มานี สมาปชิตวา นิสิทิ. [สมาวดี ๒/๒๖] นั่งเข้ามาน
วาสตุตตตุ อาทาน ปลาย. [สมาวดี ๒/๒๗] ทรงพา