ความหมายและการใช้คำ 'แต่' และ 'จาก' ในภาษาไทย อธิบายวากยสัมพันธ์ เล่ม 1 หน้า 77
หน้าที่ 77 / 195

สรุปเนื้อหา

ข้อความนี้อธิบายถึงความหมายและการใช้งานของคำว่า 'แต่' และ 'จาก' ตามมติของภวาอาจารย์ โดยมีตัวอย่างแสดงถึงความสัมพันธ์และอสมสัมเนื่องกัน ของคำต่าง ๆ ในภาษาไทย ที่แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างในการใช้งานคำดังกล่าว เช่น การแสดงถึงสิ่งที่เกิดขึ้นตามสายสัมพันธุ์ รวมถึงออกรายละเอียดของอปทานและปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการใช้คำในบริบทต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยให้เข้าใจมากขึ้นถึงวงการภาษาที่แสดงถึงการใช้งานจริงในสังคมไทย.

หัวข้อประเด็น

-การใช้คำในภาษาไทย
-อรรถและความหมายของคำ
-มติของภวาอาจารย์
-สายสัมพันธุ์ในภาษา
-อปทานและปัจจัยในภาษาไทย

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโยค - อภิธานคำสัมพันธ เล่ม ๑ หน้า 74 อรรถนี้เรียกว่า อรรถ จาก กีได้ มีมิติของภวาอาจารย์ว่า "แต่" ใช้กับสิ่งที่มีอสมสัมเนื่องกัน ระหว่างสิ่งที่เป็นแดนออกถึงสิ่งที่ออกมา เช่น ความโก้เกียรติแต่ของที่รัก ของที่รักเป็นแดนเกิด โคกเป็นสิ่งเกิดหรือออกมา เมืองของรักษ์เมื่อลูกให้เกิดโคกเนื่องกันไป อ. ในคำไทย เช่น "ต้นไม่เกิดแต่แผ่นดิน" [ปรากฎราวา ลกตัง เป็นสายสัมเกิด] แม่บ้ากเกิดแต่กาบ [ปรากฎลำบินสีบ้ากุฎบู] ถ้าไม่มีความเนื่องเป็นสาย ก็ไม่ใช่แต่. ใช้ จากา เช่น พึงห้ามจิดจากบัง. นี้ไม่ปรากฏสายสัมเนื่องกัน อ. ในคำไทย เช่น :- "เรือนออกจากท่า" "พึ่งจากเครื่องผูก คืออรวา" [วิบุณตก ๘/๑๖]. เสื้อจากคุณมีสีเป็นดั่ง. [มาทุกสภาพเราสุ สทุวิทิกิริด. ๓/๑๑๓] "ออกจากท้องของแม่" [ปติปฏิกา. ๓/๒]. "แต่" กับ "จาก" ใช้ในอรรถต่างกัน ตามมติของภวาอาจารย์ ดังนี้ พิจารณาลูกก็ผลัดกันได้ตามที่กล่าวแล้ว "๒ ศัพท์ ได ปัจจัย ซึ่งเป็นเครื่องหมาย ปัญจวิถิต ที่ใช้ในอรรถนี้ เรียกชื่อว่า อปทาน ดูแต่เดียวกัน เช่น ปิยโต ใน อ. ที่แสดงแล้ว เป็นแดนเปรียบ ๒. เป็นแดนเปรียบ (กว่า) เรียกชื่อว่า อปทาน ดู
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More