ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อธิบายความสัมพันธ์ เล่ม ๑ - หน้าที่ 83
[๒] สามสัมพันธ์นี้เข้ากับนามสมอ นามในที่นี้น่ึงถึงนามนาม
จะเป็นนามนามแท้ หรือเป็นบทที่ใช้ฐานเป็นนามนามก็ได้ อึ่ง
นามนามนั้น จะใช้ในฐานเป็น กรณ์ หรือในฐานเป็นคุณนามอรรถใด
อรรถหนึ่งก็ตาม คงเข้าได้เท่านั้น เช่น : -
[เข้ากับนามนามที่ใช้ฐานเป็น กร ṅ ] กถฐิ ออลโคเยว
มม ปุโต. [ในข้อ ๑] มม สามสัมพันธ์ใน ปุโตฌ ซึ่งเป็นการรา
คือประโยคนี้เป็น กัณฑา.
[เข้ากับนามนามที่ใช้ในฐานเป็นคุณนามอรรถใดรรถหนึ่ง]
สุตา เม ภาณฺ ภควา. [ในข้อ ๑.] เม สามสัมพันธ์ใน สุตา ซึ่ง
เป็นวิภาษของ ภควา.
อยู่ โน ปุโต ปญฺญามติคฺ ภิวสติ. [ฎุกฺฏุวิมุตฺต. ๕/๒๕]
'ผู้จี้กเป็นปัจจามิตตรของบิดาอของเรา. ปฺญฺญามติฺโต
ซึ่งเป็นวิภัตติตาใน ภวิสุตติ.
[เข้ากับบทที่ใช้ฐานเป็นนามนาม ] รุขโณ อุปฏาน คจฺจติ.
[มหาชนสุติ. ๕/๑๐๐๙] ย่อมไปสู้พระราชฐานเป็นที่ปฏิบัติของ
พระราชา. รุขโณ สามสัมพันธ์ใน อุปฏาน.
อึงี้ เข้ากับความนามในบทที่มาที่มาจากนามบ้าง อ:-
สภาควา สามคุณสถโอโล. [เทวาสหายกุฎี. ๔/๕๙๗] เขา
ย่อมเป็นผู้มีส่วนแห่งสัญญะ: ภาควา มีรูปเป็นคุณนามแท้มาจาก
นาม คือ ภาค โดยลงปจ้ในตัณติทำให้เป็นคุณ สามญาณสํมี