ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อธิบายความสัมพันธ์ เล่ม ๑ หน้า หน้า 12
พากย์
๓. หลายบทหรือหลายพากย์ง์ ผสมให้เป็นใจความ ได้เต็มที่ เรียกว่า พากย์ เช่น ปฏิโด มาติบีรษู สมุมา ปฏิปชนูโต ปลัส ลด เป็นตัวอย่าง ตอนมีครูอาจายขาด หนึ่ง ๆ นับเป็นพากย์หนึ่ง ๆ
อธิบาย [๓] ข้อว่า เป็นใจความได้เต็มที่นั้น หมายความว่า เติมตามวิธีไวยากรณ์ โดย อธิปธานี พากย์หนึ่ง จึงอาจประกอบขึ้นด้วยหลายบท คือไม่มากถึง แบ่งเป็นพากย์ยิ่งมี อ. อดิฏฐเถา ลุยญาณ. [ ฉัฏกาสุก. ๕/๕ ] บุคคลพึงริบความดี. แม้ด้วย ๒ บทก็มี อ. มหาวน สุนิพุติ. [ มุตุกุณฺฑิโต. ๑/๑๓ ] มหาชนประชุมกันแล้ว. และประกอบขึ้น ด้วยหลายพากย์ดี เป็นพากย์ยาว ๆ ก็มี เช่น สุตต คณฤกษ์ยีนิสินโน ว - เป่า ๆ สุไล บุญสมสุต อุจโยติ. [ ลาภเทวาฯ. ๕/๕ ] ที่ยกมาไว้เพียง นิสินโนว ในข้อนั้น.
อธิบาย ประกอบขึ้นด้วยพากย์เดียว [ เป็น ๒ ตอนไทพากย์ ] ก็มี เช่น อ. ในแบบซึ่งเปล่า ๆ มุตรปฏิบัติซอปในมรรคบิตา ย่อม ได้สารเสร็จ. ทั้งนี้เพราะเมื่อมีประธาน มีกายุกพากย์ แม้ ๒ บทเท่านั้น ก็อาจว่าความเต็มที่เป็นพากย์ได้ ตามเชยากรณ์แล้ว เพราะเหตุนี้ พากย์หนึ่งจึงอย่างบ่งซั้นบ่ง ตามความในตอนนั้น ๆ.
[๒] ข้อว่า ตอนก็อาจขาดหนึ้ง ๆ นับเป็นพากย์หนึ่ง ๆ นั้น แสดงไว้เป็นรีทัสนะ เพราะมุ่งที่เป็นไปโดยมาก แต่ตอนมี