ข้อความต้นฉบับในหน้า
ท่านมนทกเศรษฐี เราได้ยินชื่อกันบ่อย ท่านมีความตั้งใจสูงส่ง ฉลาดเชี่ยวชาญโอกาสที่เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำช่วงนั้นสร้างบารมีไปเลย โดยท่านคิดว่า ถ้าเรากินข้าวมื้อนี้เราก็อิ่มแค่มือนี้เท่านั้น แต่เมื่อเขี้คิดเป็นมูลค่ามันก็ไม่กบบาท ถ้าเราไปใส่บาตรพระ พอข้าวตกจากมือเราก็ลงไปในบาตรพระ มันมีฤทธิ์ มีอานุภาพเป็นผลบุญติดอยู่ในตัวของเรา และติดไปกระทั่งถึงวาสุดท้ายที่เดียว
เวลาตายก็นำบุญนี้ก็ปลุ้มปิติ ตายแล้วบุญส่งผลให้ไปมีสมบัติอันเป็นทิพย์ มีรูปทิพย์ เสียงทิพย์ กลิ่นทิพย์ รสทิพย์ สมนิต เป็นทิพย์ มีความเป็นใหญ่ที่เป็นทิพย์ทั้งหมด ลงมาเกิดอีก บุญนั้นยังส่งผลให้มาเป็นมหาเศรษฐีอีก และไม่ได้เป็นชาติเดียว แต่เป็นแล้วเป็นอีก เมื่อเป็นอีกแล้วก็ทำบุญอีก จนกระทั่งพรสุดท้ายถึงได้มีสมบัติึดไม่พร่อง เป็นสิ่งที่เหลือเชื่อ แต่เป็นความจริง เหลือเชื่อ คือ มนุษย์ในยุคนี้นิดไม่อาจจะเกิดสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไร เพราะฉะนั้น ภาวะนี้จะเป็นภาวะที่วัดกำลังใจของเราว่าเรามีกำลังใจเข้มแข็งกล้าหาญดีเดียวกันแต่ไหน และวัดภูมิปัญญาของนักสร้างบารมี ถ้าใครตระหนี่เหนียวยาวพอชาติ ต่อไปความตระหนี่นั้นแหละจะทำให้ลำบากยากแค้นกัน ภพชาตินี้ถ้าใครไม่ตระหนี่ใช้อย่าสงบกันทำกันเต็มที่ เมื่อเราเกิดมาสร้างบารมีก็จะไปเป็นของเราไม่ได้ไปเป็นของใคร และสมบัติสัมปทานไม่พร่อง โจรปล้นก็ไม่ได้ น้ำท่วมก็ไม่ได้ ไม่ถูกทำลาย ไม่เสียหาย ไฟไหม้ก็ไม่เป็นไร จะเกิดอันตรายก็เลย ไม่มีอะไรกำลังสมบัติ นี้ได้เลย
(ลำดับภาพ) ๒๙๙