ข้อความต้นฉบับในหน้า
8. ทรงเป็นพุทโธ คือ ผู้ตื่นและเบิกบานแล้ว ทรงตื่นเองจากความเชื่อถือและข้อปฏิบัติทั้งหลาย
ที่ถือกันมาผิดๆ ทั้งทรงปลุกให้ผู้อื่นหลุดพ้นจากความหลงงมงายด้วย อนึ่ง เพราะไม่ติด ไม่หลง ไม่ห่วงกังวล
ในสิ่งใดๆ จึงมีพระราชหฤทัยเบิกบาน ชุ่มชื่น เป็นสุขอย่างที่สุด
9. ทรงเป็นภควา คือ ผู้จำแนกธรรมด้วยพระปัญญาอันยิ่งของพระองค์เอง จึงทรงสามารถจำแนก
ธรรมทั้งหมดที่พระองค์ตรัสรู้ออกเป็นหมวด เป็นหมู่ เป็นข้อ เพื่อให้ง่ายต่อการศึกษา และเลือกปฏิบัติให้ถูกกับ
จริตอัธยาศัยของชาวโลก ไม่มีศาสดาใดในโลกสามารถทำได้เท่าพระองค์ หรือยิ่งกว่าพระองค์
เมื่อสิ้นเสียงสรรเสริญพระพุทธคุณอันประเสริฐจากหมอชีวกโกมารภัจจ์แล้ว เหล่าอำมาตย์ราช
บริพารทั้งหลายที่ชุมนุมกันอยู่ ณ มหาปราสาทชั้นบนนั้น ต่างนั่งนิ่งตะลึงงันด้วยความอัศจรรย์ใจ เพราะ
ไม่คาดคิดว่าจะมีศาสดาองค์ใดถึงพร้อมด้วยคุณธรรมอันยิ่งใหญ่ปานนั้น ครั้นแล้วหมอชีวกโกมารภัจจ์
จึงกราบทูลอัญเชิญพระเจ้าอชาตศัตรู ให้เสด็จไปเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ สวนอัมพวัน
การที่พระเจ้าอชาตศัตรู ทรงมีพระประสงค์ใคร่จักเสด็จไปเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในครั้งนั้น
มีเหตุผลที่สำคัญหลายประการ คือ ทรงรู้สึกสำนึกพระองค์ว่าได้กระทำผิด ในการที่หลงเชื่อคำพระเทวทัต
นักบวชทุศีลและอันธพาล จนถึงกับหลงทำการอันร้ายกาจ ปลงพระชนม์ชีพพระราชบิดาผู้ทรงธรรม ซึ่ง
เป็นกรรมใหญ่หลวงนัก นอกจากนี้พระองค์ยังถูกพระเทวทัต ล่อลวงด้วยกลอุบายหลายวิธี จนถึงกับเห็นผิด
ไปร่วมมือกับพระเทวทัตประทุษร้ายต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยทรงใช้พวกนายขมังธนูไปลอบยิง
พระพุทธองค์ แม้ว่าไม่อาจทำอันตรายใดๆ ต่อพระบรมศาสดาได้ แต่ก็ถือว่าพระองค์ได้ทรงทำกรรมหนักยิ่ง
เหตุผลอีกประการหนึ่งก็คือ ได้ทรงสดับข่าวว่า พระเทวทัตผู้เป็นอันธพาลนั้น ถูกกรรมบันดาล
ให้ธรณีสูบลงไปใต้พื้นปฐพี เห็นประจักษ์แก่ตาคนทั้งหลายแล้ว อีกทั้งกิตติศัพท์อันชั่วช้าของพระองค์ที่ได้
หลงคบกับพระเทวทัต ก็ระบือไปทั่วแว่นแคว้น ทำให้ทรงรำพึงว่า ถ้าไม่หาโอกาสไปขอขมาต่อพระสัมมา
สัมพุทธเจ้าผู้ทรงเป็นบรมครูของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลายแล้ว พระองค์ก็จักได้รับโทษเช่นพระเทวทัตเป็น
แน่แท้ ยิ่งทรงรำพึงไป ก็ยิ่งจินตนาการเห็นผลแห่งอนันตริยกรรมที่ทรงก่อไว้ จนไม่สามารถบรรทมหลับได้
และไม่ทรงเห็นผู้ใดที่จะเป็นที่พึ่งได้เลยนอกจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ด้วยเหตุผลสำคัญดังกล่าว ประกอบกับได้สดับคำสรรเสริญพระพุทธคุณจากหมอชีวกโกมารภัจจ์
จึงทำให้พระเจ้าอชาตศัตรูทรงมีพระราชประสงค์อย่างแน่วแน่ ที่จะเสด็จไปเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระองค์จึงทรงตอบรับคำเชิญของหมอชีวกโกมารภัจจ์ทันที และทรงสั่งให้หมอชีวกโกมารภัจจ์จัดเตรียม
ขบวนช้างพระที่นั่ง สำหรับเดินทางไปเข้าเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในค่ำคืนนั้นเอง
บทที่ 3 พ ร ะ ส ม ม า สั ม พุท ธเจ้าเสด็จ ประทับ ณ ส ว น อั ม พ วัน
DOU 27