พระสัมมาสัมพุทธเจ้ากับพระเจ้าอชาตศัตรู SB 304 ชีวิตสมณะ หน้า 38
หน้าที่ 38 / 209

สรุปเนื้อหา

บทความนี้กล่าวถึงการที่พระเจ้าอชาตศัตรูต้องการเข้าเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเกิดจากการสำนึกผิดและอยากขอโทษหลังจากที่ได้ทำกรรมหนักต่อบุพการีและพระพุทธองค์ โดยเขาตระหนักถึงความผิดพลาดและผลที่ตามมา พร้อมทั้งเน้นถึงคุณค่าของการศึกษาและการเข้าถึงธรรมะให้ถูกต้อง การตัดสินใจไปเฝ้าพระพุทธเจ้าถือเป็นก้าวสำคัญในการกลับใจ และทำให้เห็นถึงความสำคัญของการทำความดีและการไม่หลงใหลในความผิด.

หัวข้อประเด็น

-พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
-พระเจ้าอชาตศัตรู
-การกลับใจ
-การขอโทษ
-การตัดสินใจสำคัญ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

8. ทรงเป็นพุทโธ คือ ผู้ตื่นและเบิกบานแล้ว ทรงตื่นเองจากความเชื่อถือและข้อปฏิบัติทั้งหลาย ที่ถือกันมาผิดๆ ทั้งทรงปลุกให้ผู้อื่นหลุดพ้นจากความหลงงมงายด้วย อนึ่ง เพราะไม่ติด ไม่หลง ไม่ห่วงกังวล ในสิ่งใดๆ จึงมีพระราชหฤทัยเบิกบาน ชุ่มชื่น เป็นสุขอย่างที่สุด 9. ทรงเป็นภควา คือ ผู้จำแนกธรรมด้วยพระปัญญาอันยิ่งของพระองค์เอง จึงทรงสามารถจำแนก ธรรมทั้งหมดที่พระองค์ตรัสรู้ออกเป็นหมวด เป็นหมู่ เป็นข้อ เพื่อให้ง่ายต่อการศึกษา และเลือกปฏิบัติให้ถูกกับ จริตอัธยาศัยของชาวโลก ไม่มีศาสดาใดในโลกสามารถทำได้เท่าพระองค์ หรือยิ่งกว่าพระองค์ เมื่อสิ้นเสียงสรรเสริญพระพุทธคุณอันประเสริฐจากหมอชีวกโกมารภัจจ์แล้ว เหล่าอำมาตย์ราช บริพารทั้งหลายที่ชุมนุมกันอยู่ ณ มหาปราสาทชั้นบนนั้น ต่างนั่งนิ่งตะลึงงันด้วยความอัศจรรย์ใจ เพราะ ไม่คาดคิดว่าจะมีศาสดาองค์ใดถึงพร้อมด้วยคุณธรรมอันยิ่งใหญ่ปานนั้น ครั้นแล้วหมอชีวกโกมารภัจจ์ จึงกราบทูลอัญเชิญพระเจ้าอชาตศัตรู ให้เสด็จไปเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ สวนอัมพวัน การที่พระเจ้าอชาตศัตรู ทรงมีพระประสงค์ใคร่จักเสด็จไปเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในครั้งนั้น มีเหตุผลที่สำคัญหลายประการ คือ ทรงรู้สึกสำนึกพระองค์ว่าได้กระทำผิด ในการที่หลงเชื่อคำพระเทวทัต นักบวชทุศีลและอันธพาล จนถึงกับหลงทำการอันร้ายกาจ ปลงพระชนม์ชีพพระราชบิดาผู้ทรงธรรม ซึ่ง เป็นกรรมใหญ่หลวงนัก นอกจากนี้พระองค์ยังถูกพระเทวทัต ล่อลวงด้วยกลอุบายหลายวิธี จนถึงกับเห็นผิด ไปร่วมมือกับพระเทวทัตประทุษร้ายต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยทรงใช้พวกนายขมังธนูไปลอบยิง พระพุทธองค์ แม้ว่าไม่อาจทำอันตรายใดๆ ต่อพระบรมศาสดาได้ แต่ก็ถือว่าพระองค์ได้ทรงทำกรรมหนักยิ่ง เหตุผลอีกประการหนึ่งก็คือ ได้ทรงสดับข่าวว่า พระเทวทัตผู้เป็นอันธพาลนั้น ถูกกรรมบันดาล ให้ธรณีสูบลงไปใต้พื้นปฐพี เห็นประจักษ์แก่ตาคนทั้งหลายแล้ว อีกทั้งกิตติศัพท์อันชั่วช้าของพระองค์ที่ได้ หลงคบกับพระเทวทัต ก็ระบือไปทั่วแว่นแคว้น ทำให้ทรงรำพึงว่า ถ้าไม่หาโอกาสไปขอขมาต่อพระสัมมา สัมพุทธเจ้าผู้ทรงเป็นบรมครูของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลายแล้ว พระองค์ก็จักได้รับโทษเช่นพระเทวทัตเป็น แน่แท้ ยิ่งทรงรำพึงไป ก็ยิ่งจินตนาการเห็นผลแห่งอนันตริยกรรมที่ทรงก่อไว้ จนไม่สามารถบรรทมหลับได้ และไม่ทรงเห็นผู้ใดที่จะเป็นที่พึ่งได้เลยนอกจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยเหตุผลสำคัญดังกล่าว ประกอบกับได้สดับคำสรรเสริญพระพุทธคุณจากหมอชีวกโกมารภัจจ์ จึงทำให้พระเจ้าอชาตศัตรูทรงมีพระราชประสงค์อย่างแน่วแน่ ที่จะเสด็จไปเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์จึงทรงตอบรับคำเชิญของหมอชีวกโกมารภัจจ์ทันที และทรงสั่งให้หมอชีวกโกมารภัจจ์จัดเตรียม ขบวนช้างพระที่นั่ง สำหรับเดินทางไปเข้าเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในค่ำคืนนั้นเอง บทที่ 3 พ ร ะ ส ม ม า สั ม พุท ธเจ้าเสด็จ ประทับ ณ ส ว น อั ม พ วัน DOU 27
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More