เป้าหมายชีวิตและผลกระทบของมิจฉาทิฏฐิ SB 304 ชีวิตสมณะ หน้า 153
หน้าที่ 153 / 209

สรุปเนื้อหา

บทความนี้กล่าวถึงการตั้งเป้าหมายชีวิตในระดับต่าง ๆ โดยเฉพาะเป้าหมายที่มุ่งเน้นการแสวงหาร่ำรวยโดยไม่มีการตระหนักถึงบุญและบาป ต่อมาได้กล่าวถึงผู้ที่มีเป้าหมายระดับกลางซึ่งมีความเข้าใจถึงชาติหน้า และการสร้างบุญเพื่ออนาคต การมีสัมมาทิฏฐิถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะนำไปสู่ชีวิตที่มีความสุขและหมายถึงการพัฒนาจิตใจตนเอง

หัวข้อประเด็น

-เป้าหมายชีวิต
-มิจฉาทิฏฐิ
-การแสวงหาความมั่งคั่ง
-บุญและบาป
-ธรรมะ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

บุคคลที่มีเป้าหมายจำกัดอยู่เพียงในระดับนี้ มักไม่สนใจเรื่องการสั่งสมบุญบารมี อาจไม่มีความ ละอาย หรือเกรงกลัวบาปเท่าที่ควร ครั้นตั้งหน้าตั้งตากอบโกยแสวงหาความมั่งคั่งร่ำรวย อำนาจและ บริวารไปเรื่อยๆ ก็มักจะไม่สามารถสอนใจตนเองได้ว่า จะต้องมีมากเท่าไรจึงจะพอ เมื่อไม่รู้ปริมาณที่ควร จะพอก็ย่อมจะเบียดเบียนทั้งตนเอง และผู้อื่นต่อๆ ไปไม่รู้จบ เบียดเบียนตนเอง หมายความว่า คิดแต่จะแสวงหาทรัพย์แม้ในทางไม่ชอบ จนกลายเป็นความ โลภ เมื่อพบอุปสรรค หรือคู่แข่งก็เกิดความโกรธ มุ่งแสวงหาอำนาจก็คือความหลง เบียดเบียนผู้อื่น หมายความว่า แก่งแย่งผู้อื่นโดยรูปแบบต่าง ๆ ตลอดจนถึงการทำลายสิ่งแวดล้อม และทรัพยากรธรรมชาติด้วย ทั้งการเบียดเบียนตนเองและผู้อื่น เหล่านี้คือวิสัยของ “มิจฉาทิฏฐิบุคคล ดังนั้น ผู้ที่ตั้งเป้าหมายบนดินเท่านั้น จึงนับว่าดำเนินชีวิตบนเส้นทางที่เสี่ยงอันตราย มีโอกาส ผิดพลาดได้ง่ายอย่างยิ่ง 2. เป้าหมายระดับกลาง เป็นเป้าหมายที่คำนึงถึงชาติหน้าด้วย เพราะเข้าใจถูกว่า ตายแล้ว ไม่สูญ อาจเรียกง่ายๆ ว่า “เป้าหมายบนฟ้า” มนุษย์เราวิเศษกว่าสัตว์ดิรัจฉาน ก็ตรงที่มี “ธรรมสัญญา” หมายถึง การตระหนักในเรื่องของธรรมะ จัดเป็นสัมมาทิฏฐิระดับหนึ่ง คือ สามารถแยกแยะได้ว่า สิ่งใดเป็นบุญ สิ่งใดเป็นบาป มีความเชื่อว่าตายแล้ว ไม่สูญ จึงคิดสร้างบุญไว้สำหรับชีวิตหน้า โดยการบำรุงสมณพราหมณ์ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นลักษณะของ จิตใจที่พัฒนาสูงขึ้น ดังที่พระเจ้าอชาตศัตรูทูลพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า “ผู้คนทั่วไปต่างก็อาศัยความรู้ ความสามารถประกอบอาชีพ เลี้ยงตนเองและครอบครัว รวมทั้งบำรุงบิดามารดาให้เป็นสุข ส่วนทรัพย์สิน ที่เหลือ ก็นำไปบำเพ็ญทานแก่นักบวชทั้งหลาย ด้วยหวังความสุขทั้งโลกนี้และโลกหน้า...” ใครก็ตามที่มีความคิดเช่นนี้ถือได้ว่าเป็นผู้มีสัมมาทิฏฐิเบื้องต้น และมีเป้าหมายชีวิตอยู่ในระดับกลาง อชาตศัตรูราชกุมารในระยะที่ทรงติดต่อคบค้ากับพระเทวทัตอยู่นั้น กล่าวได้ว่าทรงมีเป้าหมายชีวิต อยู่ในระดับบนดิน เพราะมุ่งแต่ราชสมบัติและอำนาจ จึงมีพระทัยเป็นมิจฉาทิฏฐิ จมอยู่ในความมืดมน แห่งกิเลส ยิ่งเมื่อถูกพระทุศีลซึ่งพราวไปด้วยเล่ห์เพทุบาย ทั้งรู้จิตวิทยาและธรรมดาของสัตว์โลกเป็น อย่างดี ชี้นำให้ทรงหลงทาง มิจฉาทิฏฐิของราชกุมารก็ยิ่งทวีขึ้นอีกเรื่อยๆ ดังนั้น จึงไม่น่าสงสัยเลยว่า เหตุใดบุคคลซึ่งมีบุญบารมีขนาดจะมีโอกาสบรรลุโสดาปัตติผลต่อเบื้องพระพักตร์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงได้ก่ออนันตริยกรรม ครั้นเมื่อขึ้นครองราชบัลลังก์เป็นพระเจ้าอชาตศัตรู ได้ทรงก่ออนันตริยกรรมขึ้นแล้ว ผลแห่ง กรรมหนักนั้นได้บีบคั้นพระทัยให้เป็นทุกข์สุดแสนสาหัส แต่เพราะเหตุที่ทรงมีบุญเก่าเป็นทุนอยู่ จึงทรงมี สติสัมปชัญญะสำนึกในบาปมหันต์ที่ทรงกระทำไปแล้ว ชักนำให้ทรงดำริหาทางแก้ไขปรับปรุง เพื่อให้พ้น จากความทุกข์ที่บีบคั้นพระทัยอยู่ 142 DOU ชี วิ ต ส ม ณ ะ
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More