การเดินทางเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาค SB 304 ชีวิตสมณะ หน้า 181
หน้าที่ 181 / 209

สรุปเนื้อหา

เรื่องราวนี้กล่าวถึงการเสด็จเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคของพระราชาและชีวกโกมารภัจจ์ โดยมีการเตรียมช้างพังและความสงบของภิกษุสงฆ์ที่นั่งอยู่รายรอบ การเข้าเฝ้าเพื่อขอความรู้และคำแนะนำ โดยมีการสนทนาเกี่ยวกับศิลปศาสตร์ต่าง ๆ ทั้งพลช้าง พลม้า และอื่นๆ สะท้อนให้เห็นถึงความเคารพและความตั้งใจในการเรียนรู้ของพระราชา การสนทนานี้เป็นการแสดงถึงความสำคัญของการหาความรู้และความเข้าใจในพระธรรมจากพระผู้มีพระภาคเพื่อประโยชน์ในการปกครองและสร้างความสงบในประเทศ.

หัวข้อประเด็น

-การเสด็จเข้าเฝ้า
-ชีวกโกมารภัจจ์
-การสนทนากับพระผู้มีพระภาค
-ความสำคัญของปัญญา
-ศิลปศาสตร์

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ เสด็จไปดีแล้ว ทรงรู้แจ้งโลก เป็นสารถีฝึกบุรุษที่ควรฝึกไม่มีผู้อื่นยิ่งกว่า เป็น ศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้เบิกบานแล้ว เป็นผู้จำแนกพระธรรมดังนี้ เชิญพระองค์เสด็จเข้าไป เฝ้าพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้นเถิด เห็นด้วยเกล้าฯ ว่า เมื่อพระองค์เสด็จเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค พระฤทัยจึงเลื่อมใส ท้าวเธอจึงมีพระราชดำรัสว่า ชีวกผู้สหาย ถ้าอย่างนั้น ท่านจงสั่งให้เตรียมหัตถียานไว้ หมอชีวกโกมารภัจจ์ รับสนองพระราชโองการแล้ว สั่งให้เตรียมช้างพังประมาณ 500 เชือก และช้างพระที่นั่ง เสร็จแล้วจึงกราบทูลว่า ขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้าสั่งให้เตรียมหัตถียานพร้อมแล้ว เชิญใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท เสด็จได้พระเจ้าข้า ลำดับนั้น ท้าวเธอโปรดให้พวกสตรีขึ้นช้างพัง 500 เชือกๆ ละนาง แล้วจึงทรงช้างพระที่นั่งมีผู้ถือ คบเพลิง เสด็จออกจากพระนครราชคฤห์ ด้วยพระราชานุภาพอย่างยิ่งใหญ่ เสด็จไปสวนอัมพวันของ หมอชีวกโกมารภัจจ์ พอใกล้จะถึง ท้าวเธอเกิดทรงหวาดหวั่นครั่นคร้าม และทรงมีความสยดสยองขึ้น ครั้นท้าวเธอทรงกลัว ทรงหวาดหวั่น มีพระโลมชาติชูชันแล้ว จึงตรัสกับหมอชีวกโกมารภัจจ์ว่า ชีวกผู้สหาย ท่านไม่ได้ลวงเราหรือ ชีวกผู้สหาย ท่านไม่ได้หลอกเราหรือ ชีวกผู้สหาย ท่านไม่ได้ล่อเรามาให้ศัตรูหรือ เหตุไฉนเล่า ภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ตั้ง 1,250 รูป จึงไม่มีเสียงจาม เสียงกระแอม เสียงพึมพำเลย หมอชีวก โกมารภัจจ์กราบทูลว่า ขอพระองค์อย่าได้ทรงหวาดหวั่นเกรงกลัวเลยพระเจ้าข้า ข้าพระพุทธเจ้าไม่ได้ลวง พระองค์ ไม่ได้หลอกพระองค์ ไม่ได้ล่อพระองค์มาให้ศัตรูเลย พระเจ้าข้า ขอเดชะ เชิญพระองค์เสด็จ เข้าไปเถิดๆ นั่นประทีปที่โรงกลมยังตามอยู่ ลำดับนั้น ท้าวเธอเสด็จพระราชดำเนินโดยกระบวนช้างพระที่นั่ง ไปจนสุดทาง เสด็จลงทรงพระดำเนินเข้าประตูโรงกลม แล้วจึงรับสั่งกะหมอชีวกโกมารภัจจ์ว่า ชีวกผู้สหาย ไหนพระผู้มีพระภาค หมอชีวกโกมารภัจจ์กราบทูลว่า ขอเดชะ นั่นพระผู้มีพระภาคประทับนั่งพิงเสากลาง ผินพระพักตร์ไปทางทิศบูรพา ภิกษุสงฆ์แวดล้อมอยู่ ลำดับนั้น ท้าวเธอเสด็จเข้าไปเฝ้า พระผู้มีพระภาคประทับยืน ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง แล้วทรง ชำเลืองเห็นภิกษุสงฆ์นิ่งสงบเหมือนห้วงน้ำใส ทรงเปล่งพระอุทานว่า ขอให้อุทยภัทท์กุมารของเราจงมี ความสงบอย่างภิกษุสงฆ์เดี๋ยวนี้ พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรมหาบพิตร พระองค์เสด็จมาทั้งความรัก แล้วท้าวเธอทูลรับว่า พระเจ้าข้า อุทยภัทท์กุมารเป็นที่รักของหม่อมฉัน ขอให้อุทยภัทท์กุมารของหม่อมฉัน จงมีความสงบอย่างภิกษุสงฆ์เดี๋ยวนี้เถิด ลำดับนั้น ท้าวเธอทรงอภิวาทพระผู้มีพระภาค แล้วทรงประนมอัญชลีแก่ภิกษุสงฆ์ประทับนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว ได้ตรัสพระดำรัสนี้กะพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันจะ ขอทูลถามปัญหาบางเรื่องสักเล็กน้อย ถ้าพระองค์จะประทานพระวโรกาสพยากรณ์ปัญหาแก่หม่อมฉัน พ. เชิญถามเถิด มหาบพิตร ถ้าทรงพระประสงค์ อ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ศิลปศาสตร์เป็นอันมากเหล่านี้ คือ พลช้าง พลม้า พลรถ พลธนู พนักงานเชิญธง พนักงานจัดกระบวนทัพ พนักงานจัดส่งเสบียง พวกอุคคราชบุตร พลอาสา ขุนพล พลกล้า 170 DOU ชี วิ ต ส ม ณ ะ
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More