การสนทนาเกี่ยวกับการเกิดและความตาย SB 304 ชีวิตสมณะ หน้า 188
หน้าที่ 188 / 209

สรุปเนื้อหา

ในบทสนทนานี้มีการถามตอบเกี่ยวกับแนวคิดเรื่องการเกิดและความตาย ระหว่างพระพุทธเจ้ากับผู้คนนำโดยครูสัญชัยเวลัฏฐบุตร โดยพระพุทธเจ้าได้กล่าวถึงมุมมองที่แตกต่างกันเกี่ยวกับการเกิดและไม่เกิด รวมถึงความเห็นที่ซับซ้อนในการตอบคำถามเหล่านี้ เมื่อความรู้ยังไม่เพียงพอ ย่อมก่อให้เกิดความสับสน. หม่อมฉันจึงตั้งคำถามเกี่ยวกับศิลปศาสตร์ต่างๆ ที่สามารถบรรลุผลได้ในปัจจุบันและถามว่าพระองค์สามารถบัญญัติสามัญญผลที่เห็นประจักษ์ได้หรือไม่. พระผู้มีพระภาคตรัสตอบ และถามกลับเพื่อให้มหาบพิตรพิจารณาความเข้าใจในเรื่องนี้ ดังนี้

หัวข้อประเด็น

-การเกิดและการตาย
-ความเห็นทางศาสนา
-การศึกษาและศิลปศาสตร์
-การถามตอบทางปรัชญา
-ความเห็นของครูสัญชัยเวลัฏฐบุตร

ข้อความต้นฉบับในหน้า

อีกหรือ ถ้าอาตมภาพมีความเห็นว่าเกิดอีก ก็จะพึงทูลตอบว่าเกิดอีก ถ้ามหาบพิตรตรัสถามว่า สัตว์ เบื้องหน้าแต่ตายไม่เกิดหรือ ถ้าอาตมภาพมีความเห็นว่าไม่เกิด ก็จะพึงทูลตอบว่าไม่เกิด ... ถ้ามหาบพิตร ตรัสถามว่า สัตว์เบื้องหน้าแต่ตายเกิดด้วยไม่เกิดด้วยหรือ ถ้าอาตมภาพมีความเห็นว่าเกิดด้วยไม่เกิดด้วย ก็จะพึงทูลตอบว่าเกิดด้วยไม่เกิดด้วย ... ถ้ามหาบพิตรตรัสถามว่า สัตว์เบื้องหน้าแต่ตายเกิดก็มิใช่ไม่เกิดก็ มิใช่หรือ ถ้าอาตมภาพมีความเห็นว่าเกิดก็มิใช่ไม่เกิดก็มิใช่ก็จะพึงทูลตอบว่าเกิดก็มิใช่ไม่เกิดก็มิใช่.... อาตมภาพ มีความเห็นว่าอย่างนี้ก็มิใช่ อย่างนั้นก็มิใช่ อย่างอื่นก็มิใช่ ไม่ใช่ก็มิใช่ มิใช่ไม่ใช่ก็มิใช่ ดังนี้ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เมื่อหม่อมฉันถามถึงสามัญญผลที่เห็นประจักษ์ ครูสัญชัยเวลัฏฐบุตร กลับ ตอบส่ายไป ฉะนี้ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันถามถึงสามัญญผลที่เห็นประจักษ์ ครูสัญชัยเวลัฏฐบุตร กลับตอบสายไป เปรียบเหมือนเขาถามถึงมะม่วง ตอบขนุนสำมะลอ หรือเขาถามถึงขนุนสำมะลอ ตอบ มะม่วง ฉะนั้น หม่อมฉันมีความดำริว่า บรรดาสมณพราหมณ์เหล่านี้ ครูสัญชัยเวลัฏฐบุตร นี้โง่กว่าเขาทั้งหมด งมงายกว่าเขาทั้งหมด เพราะเมื่อหม่อมฉันถามถึงสามัญญผลที่เห็นประจักษ์ อย่างไร จึงกลับตอบส่ายไป หม่อมฉันมีความดำริว่า ไฉน คนอย่างเรา จะพึงมุ่งรุกรานสมณะหรือพราหมณ์ ผู้อยู่ในราชอาณาเขต ดังนี้ แล้วไม่ยินดี ไม่คัดค้านภาษิตของครูสัญชัยเวลัฏฐบุตร ไม่พอใจ แต่ก็มิได้เปล่งวาจา แสดงความไม่พอใจ ไม่เชื่อถือ ไม่ใส่ใจถึงวาจานั้น ลุกจากที่นั่งหลีกไป สันทิฏฐิกสามัญญผลปุจฉา ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันขอทูลถามพระผู้มีพระภาคบ้างว่า ศิลปศาสตร์เป็นอันมากเหล่านี้ คือพลช้าง พลม้า พลรถ พลธนู พนักงานเชิญธง พนักงานจัดขบวนทัพ พนักงานจัดส่งเสบียง พวกอุคคราชบุตร พลอาสา ขุนพล พลกล้า พลสวมเกราะหนัง พวกบุตรทาส ช่างทำขนม ช่างกัลบก พนักงานเครื่องสรง พวก พ่อครัว ช่างดอกไม้ ช่างย้อม ช่างหูก ช่างจักสาน ช่างหม้อ นักคำนวณ นักนับคะแนน หรือศิลปศาสตร์ เป็นอันมาก แม้อย่างอื่นใดที่มีคติเหมือนอย่างนี้ คนเหล่านั้น ย่อมอาศัยผลแห่งศิลปศาสตร์ที่เห็นประจักษ์ เลี้ยงชีพในปัจจุบัน ด้วยผลแห่งศิลปศาสตร์นั้น เขาย่อมบำรุงตน มารดาบิดา บุตร ภริยา มิตร อำมาตย์ ให้ เป็นสุขอิ่มหนำสำราญ บำเพ็ญทักษิณาทานอันมีผลอย่างสูง เป็นไปเพื่อให้ได้อารมณ์ดี มีสุขเป็นผล ให้เกิด ในสวรรค์ ในสมณพราหมณ์ทั้งหลาย ฉันใด ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระองค์อาจบัญญัติสามัญญผลที่เห็น ประจักษ์ในปัจจุบัน เหมือนอย่างนั้นได้หรือไม่ พระเจ้าข้า พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า อาจอยู่ มหาบพิตร แต่ในข้อนี้ อาตมภาพจะขอย้อนถามมหาบพิตร ก่อน โปรดตรัสตอบตามที่พอพระทัย มหาบพิตรจะทรงเข้าพระทัยความข้อนั้นเป็นไฉน สมมติว่า มหาบพิตร จึงมีบุรุษผู้เป็นทาสกรรมกร มีปกติตื่นก่อนนอนทีหลัง คอยฟังพระบัญชาว่า ภ า ค ผ น ว ก DOU 177
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More