ข้อความต้นฉบับในหน้า
จะเห็นได้ว่า จุดมุ่งหมายที่แยบคายของ 2 แนวทางหลังนี้ ก็เพื่อป้องกันอาสวะอันจะบังเกิดขึ้น
ในตนรวมทั้งผู้อื่นด้วย
เมื่อตรัสสอนในเชิงให้ละและป้องกันกิเลสแล้ว พระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังทรงสอนถึงวัตถุประสงค์
ที่ถูกต้องในการบริโภค กล่าวคือ ให้พิจารณาว่าพระภิกษุบริโภคอาหาร ก็เพื่อยังชีวิตให้ดำรงอยู่ได้ต่อไป และ
เพื่อระงับความหิว แล้วอาศัยกำลังกาย อันเกิดจากการบริโภคนั้น ศึกษาไตรสิกขา คือ ศีล สมาธิ ปัญญา
ประพฤติพรหมจรรย์ได้โดยบริบูรณ์บริสุทธิ์ เพื่อความหลุดพ้นของตนเอง ในขณะเดียวกันก็สามารถทำหน้าที่
สืบทอดพระพุทธศาสนาให้ยืนยาวออกไป เพื่อจะได้เป็นที่พึ่งที่ระลึกของสัตว์โลกทั้งหลาย ให้สามารถดำรง
ชีวิตอยู่ร่วมกัน ด้วยความเมตตากรุณาและสันติสุข
ส่วนการบริโภคที่เป็นโทษ นอกจากจะหมายถึงการบริโภคอาหารที่ได้มาจากการแสวงหาโดยอาชีพ
ไม่บริสุทธิ์ดังได้กล่าวไว้แล้ว ยังหมายรวมถึงการบริโภคสิ่งที่ไม่เป็นสัปปายะ คือ ไม่เป็นประโยชน์ต่อ
ร่างกายตามหลักโภชนาการ และการบริโภคมากเกินพอ ซึ่งมีโทษมากมาย เช่น ทำให้เกิดความกระสัน
ความอืดอาด ความง่วงเหงาหาวนอน อันเป็นเหตุแห่งความเกียจคร้าน เป็นต้น
ส่วนการบริโภคพอประมาณนั้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสสอนว่า ควรบริโภคหย่อน 4-5 คำ แล้ว
ดื่มน้ำตามไป ก็จะรู้สึกอิ่มพอดี ไม่ทำให้ท้องพร่อง และไม่ทำให้แน่นท้องจนรู้สึกอึดอัด
3. วัตถุประสงค์ในการใช้เสนาสนะ คำว่า “เสนาสนะ” ประกอบด้วย คำว่า “เสนะ” คือ ที่นอน
กับ “อาสนะ” คือ ที่นั่ง เมื่อรวมกันเป็น “เสนาสนะ” หมายถึง ที่อยู่อาศัย เช่น กุฏิ วิหาร และเครื่องใช้
เกี่ยวกับสถานที่ เช่น โต๊ะ เก้าอี้ หรือแม้กระทั่งโคนไม้ เมื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยก็เรียกว่า “เสนาสนะ”
วัตถุประสงค์โดยตรงของการใช้เสนาสนะ ก็เพียงเพื่อบำบัดความร้อน หนาว และเพื่ออยู่ตามลำพัง
อย่างสงบ นอกจากนี้ก็เพื่อบรรเทาอันตราย 2 อย่าง คือ อันตรายอันเนื่องจากการเบียดเบียนของเหล่า
สัตว์ร้ายต่างๆ และอันตรายอันจะเกิดขึ้นเนื่องจากการเห็นรูป แล้วทำให้กิเลสกามเฟื่องฟูขึ้น
เมื่อพิจารณาเจตนารมณ์ในการใช้เสนาสนะแล้ว ย่อมเห็นว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงมุ่งการใช้
เสนาสนะ เพื่อเป็นที่นอนและที่นั่งอย่างแท้จริง ดังนั้นกุฏิของพระภิกษุ จึงไม่สมควรตกแต่งด้วยเครื่องเรือน
หรือเครื่องประดับบ้านที่หรูหราฟุ้งเฟ้อ เพราะจะเอื้ออำนวยให้กิเลสกามของพระภิกษุเจ้าของเสนาสนะ
เฟื่องฟูขึ้น โดยเหตุนี้พระภิกษุจำเป็นจะต้องพิจารณาโดยแยบคายในการใช้สอยเสนาสนะ
4. วัตถุประสงค์ในการใช้คิลานเภสัช คำว่า “คิลาน” (คิ-ลา-นะ) แปลว่า “คนเจ็บ” คำว่า “คิลาน
เภสัช” แปลว่า “ยารักษาโรค” ซึ่งรวมถึง เนยใส เนยข้น น้ำมัน น้ำผึ้ง น้ำอ้อย ก็ถือว่าเป็นคิลานเภสัช
ของพระภิกษุด้วย
วัตถุประสงค์ในการบริโภคคิลานเภสัช ก็เพื่อระงับอาพาธหรือโรคต่างๆ อันเป็นบ่อเกิดแห่ง
ทุกขเวทนา ดังนั้นก่อนที่พระภิกษุจะบริโภคจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ จนมั่นใจว่าเมื่อบริโภคแล้ว
ทุกขเวทนาในตนจะถูกระงับอย่างแท้จริง
82 DOU ชี วิ ต ส ม ณ ะ