ผลกระทบของความรู้ในวิชาชีพกับคุณธรรม SB 304 ชีวิตสมณะ หน้า 170
หน้าที่ 170 / 209

สรุปเนื้อหา

บทความนี้วิเคราะห์ผลกระทบของการเรียนวิชาชีพที่ไม่ได้เน้นเรื่องคุณธรรม ทำให้เกิดพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในสังคมไทย โดยยกตัวอย่างการประพฤติผิดศีลและการขาดคุณธรรมในบัณฑิตที่จบการศึกษา ซึ่งสะท้อนว่าวิชาชีพนั้นไม่สามารถแก้ไขได้หากไม่มีความรู้และการปฏิบัติในด้านธรรมะอย่างแท้จริง รวมถึงชี้ให้เห็นว่าความฉลาดทางวิชาการไม่จำเป็นต้องสัมพันธ์กับคุณธรรมที่ดี และควรให้ความสำคัญกับการศึกษาในด้านธรรมะในสถาบันการศึกษาเพื่อสร้างบัณฑิตที่มีคุณธรรมเพื่อสังคมที่ดีขึ้น เพื่อที่จะนำพาประเทศชาติไปสู่ความสุขและร่มเย็น

หัวข้อประเด็น

-คุณธรรมในสังคมไทย
-การศึกษาและวิชาชีพ
-การเรียนธรรมะในสถาบันการศึกษา
-ความเชื่อมโยงระหว่างความรู้และจริยธรรม
-บทบาทของบัณฑิตในสังคม

ข้อความต้นฉบับในหน้า

เป็นความเห็นที่ผิดอย่างยิ่ง ผลพวงของความเห็นผิดได้ปรากฏให้เห็นเด่นชัดมากยิ่งขึ้นแล้วในปัจจุบัน เป็นต้นว่า คนไทยต่าง ประกาศตนเองว่าเป็นชาวพุทธ แต่เหตุใดจึงพากันประพฤติผิดศีล เช่น การล้างผลาญชีวิตกันอย่างโหดร้าย ทารุณ การขโมย การปล้นจี้กันอย่างอุกอาจ ตลอดจนการฉ้อราษฎร์บังหลวงในหมู่ชนที่มีฐานะดี เหตุการณ์เหล่านี้เป็นหลักฐานยืนยันได้ว่า การเรียนแต่วิชาชีพนั้นไม่ช่วยให้คุณธรรมของคน พัฒนาขึ้นได้เลย ในทางตรงข้าม ยิ่งมีความรู้ทางเทคโนโลยีมากขึ้นเท่าใด คนเราก็ยิ่งประกอบกรรมชั่วได้ มากยิ่งขึ้นเท่านั้น หากขาดคุณธรรมกำกับใจ และที่น่าวิตกอย่างยิ่งก็คือ ไม่มีใครมองเห็นว่า คนยิ่งฉลาด ยิ่งมีโอกาสทำความชั่วได้ง่ายกว่าคนมีสติปัญญาปานกลาง หรือคนมีปัญญาน้อย ถ้าเราจะลองไปสำรวจหลักสูตร ที่จัดสอนกันตามคณะวิชาต่างๆ ในสถานศึกษาต่างๆ ทั่วประเทศนั้น ส่วนใหญ่จะเน้นหนักในด้านวิชาชีพ ส่วนเรื่องคุณธรรมนั้นน้อยเหลือเกิน ยิ่งถ้าเป็นธรรมะในพระพุทธศาสนา แล้ว กล่าวได้ว่าไม่มีเลย ยกเว้นคณะที่เปิดสอนวิชาศาสนศาสตร์ หรือเกี่ยวข้องกับศาสนศาสตร์ และแม้ จะมีการเรียนการสอนวิชาศาสนศาสตร์กัน ก็เป็นเรื่องของการ “รู้” และวิเคราะห์วิจารณ์กันเท่านั้น ไม่มี ภาคปฏิบัติแต่อย่างใด การเรียนวิชาต่างๆ เป็นต้นว่าวิทยาศาสตร์ ยังต้องมีห้องปฏิบัติการเพื่อทำการทดลอง พิสูจน์ กฎเกณฑ์ต่างๆ เพื่อให้เข้าใจบทเรียนยิ่งขึ้น ซึ่งวิชาพุทธศาสตร์นั้น ก็ถือว่าเป็นวิทยาศาสตร์ด้วย แถมยังล้ำลึก กว่าวิชาวิทยาศาสตร์อื่นๆ มากมายนัก หากไม่มี “การปฏิบัติ” จริงแล้ว ย่อมยากที่จะเข้าใจอย่างแท้จริง ด้วยเหตุนี้ในปัจจุบัน เราจึงมักได้ยินการกล่าวสรุปธรรมะในพระพุทธศาสนาผิดเพี้ยนไปจาก พระไตรปิฎก เช่น “สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ” เป็นต้น ทั้งๆ ที่มีหลักฐานปรากฏอยู่มากมายในคัมภีร์ พระพุทธศาสนาว่า นรกนั้นมีจริง คนทำชั่วก็ต้องไปเสวยกรรมในนรกจริงๆ ดังมีพระเจ้าอชาตศัตรูและ พระเทวทัตเป็นตัวอย่าง เมื่อสถาบันการศึกษาต่างๆ ไม่มีการเรียนการสอนธรรมะในพระพุทธศาสนากันอย่างจริงจัง เรา จะหวังได้อย่างไรว่า บรรดาบัณฑิต มหาบัณฑิต หรือดุษฎีบัณฑิต ที่จบการศึกษาออกมามีตำแหน่งและ บท บาทสำคัญๆ ในชาติ จะรู้และเข้าใจธรรมะในพระพุทธศาสนา เมื่อไม่รู้ธรรมะ ไม่เป็นสัมมาทิฏฐิแล้ว จะ หวังได้อย่างไรว่าบัณฑิตเหล่านั้น ซึ่งจะต้องเป็นผู้สืบทอดประเทศชาติและศาสนาของเราต่อไปจะเป็น คนดี มีสัมมาทิฏฐิ มีคุณธรรมอย่างแท้จริง สามารถพาประเทศชาติให้ร่มเย็นเป็นสุขตลอดไปได้ ดังนั้น จึงต้องขอย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า การที่คิดว่าบัณฑิตที่จบมหาวิทยาลัยแล้ว ย่อมเป็นคนดีมี คุณธรรมทั้งสิ้นนั้น เป็นความคิดผิดอย่างร้ายแรง เพราะอันที่จริงความฉลาดรอบรู้ในวิชาชีพนั้น เป็นคนละเรื่อง กับคุณธรรม เมื่อเราต้องการให้ผู้เรียนมีความรู้ด้านวิชาชีพ เราก็จัดสอนวิชาชีพให้ แต่เมื่อเราต้องการให้ บ ท ที่ 9 บ ท ส่ ง ท้ า ย DOU 159
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More