ข้อความต้นฉบับในหน้า
บทที่ 9
บทส่งท้าย
9.1 สรุปเรื่องจากพระสูตร
สามัญญผลสูตร เป็นพระสูตรที่ 2 ในคัมภีร์ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค พระสุตตันตปิฎก ว่าด้วยผล
ของความเป็นสมณะ คือ ประโยชน์ที่จะได้จากการดำรงเพศเป็นสมณะ หรือบำเพ็ญสมณธรรม
พระเจ้าอชาตศัตรู พระราชาผู้ครองกรุงราชคฤห์แห่งแคว้นมคธ ทรงมีความกระหายใคร่รู้อย่างยิ่ง
ถึงผลดีของความเป็นสมณะที่เห็นได้ในปัจจุบัน จึงเสด็จตระเวนไปถามเจ้าลัทธิต่างๆ ในแคว้นมคธนั้น แต่
ได้รับคำตอบไม่ตรงคำถาม เหมือนถามถึงเรื่องมะม่วง แต่ได้รับคำตอบ เป็นเรื่องขนุน จึงทรงกังขาอยู่ในพระทัย
ตลอดเวลา ครั้นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ไปประทับ ณ สวนอัมพวัน ใกล้กรุง
ราชคฤห์ ซึ่งหมอชีวกโกมารภัจจ์ถวายเป็นสังฆาราม พระเจ้าอชาตศัตรูจึงเสด็จไปเฝ้าทูลถามปัญหานี้อีก
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสตอบเป็นข้อๆ รวมทั้งหมด 14 ข้อ ซึ่งแบ่งออกได้เป็น 3 หมวด คือ
หมวดที่ 1 ทำให้ผู้บวชสามารถยกฐานะทางสังคมสูงขึ้นจากเดิม คือ แม้แต่ผู้ที่มีฐานะเดิมต่ำต้อย
ในสังคม เช่น เป็นทาส เป็นกรรมกร หรือเป็นชาวนา ก็พ้นจากความเป็นทาส เป็นกรรมกร หรือเป็นชาวนา
ได้รับการเคารพยกย่องและการปฏิบัติด้วยดีจากฆราวาสทั้งหลายรวมทั้งพระมหากษัตริย์
หมวดที่ 2 ทำให้ผู้บวชมีโอกาสอบรมจิตใจเป็นสมาธิสูงยิ่งขึ้น จนกระทั่งบรรลุฌานที่ 1 ถึง 4 ตาม
ลำดับ ซึ่งทำให้สามารถละกิเลสอย่างกลางได้
หมวดที่ 3 ทำให้ผู้บวชซึ่งบรรลุฌานแล้ว สามารถบรรลุวิชชา 8 อันเป็นหนทางไปสู่ความหลุด
พ้นอย่างแท้จริง
คำตอบของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้ง 14 ข้อ ใน 3 หมวด ดังกล่าวได้แสดงให้เห็นว่า การที่พระ
ภิกษุที่บวชเข้ามาในพระพุทธศาสนาจะได้รับประโยชน์อะไรบ้างนั้น ย่อมขึ้นอยู่กับการประพฤติปฏิบัติของ
พระภิกษุเอง
พระเจ้าอชาตศัตรูทรงเลื่อมใสในพระธรรมเทศนาเป็นอย่างยิ่ง ทรงปฏิญาณพระองค์เป็นอุบาสก
ถึงพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งตลอดพระชนมชีพ แล้วกราบทูลขอขมาในการที่ทรงปลงพระชนม์ชีพพระเจ้า
พิมพิสารผู้เป็นพระราชบิดา ซึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ตรัสรับการขอขมานั้น
เมื่อพระเจ้าอชาตศัตรูเสด็จกลับแล้ว พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสกับภิกษุทั้งหลายว่า “ถ้าพระเจ้า
อชาตศัตรูไม่ปลงพระชนม์พระราชบิดา ก็จะทรงได้บรรลุโสดาปัตติผล เป็นพระโสดาบันในค่ำคืนนี้”
134 DOU ชี วิ ต ส ม ณ ะ