ข้อความต้นฉบับในหน้า
กราบทูลถามปัญหาต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
4.2 สามัญญผล...ปัญหาที่รอคำตอบ
ครั้นพระเจ้าอชาตศัตรูได้รับพุทธานุญาตให้ทรงถามปัญหาได้ พระองค์จึงทรงเริ่มปัญหาว่า
“ผู้คนทั่วไปต่างก็อาศัยความรู้ ความสามารถของตน ประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัว
รวมทั้งบำรุงบิดามารดาให้เป็นสุข ส่วนทรัพย์ที่เหลือก็นำไปบำเพ็ญทานแก่นักบวชทั้งหลาย ด้วยหวัง
ความสุขทั้งโลกนี้และโลกหน้า ส่วนการออกบวชเป็นสมณะนั้น มีผลที่เห็นได้ในปัจจุบันชาติ (หรือที่เรียกว่า
“สามัญญผล”) อย่างไร”
พระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังไม่ทรงตอบในทันที ด้วยทรงทราบดีว่า พระเจ้าอชาตศัตรูเคยเสด็จ
ไปตรัสถามปัญหานี้กับครูทั้ง 6 คือ ครูปูรณกัสสป ครูมักขลิโคสาล ครูอชิตเกสกัมพล ครูปกุทธกัจจายนะ
ครูนิครนถนาฏบุตร และครูสัญชัยเวลัฏฐบุตรมาแล้ว แต่ไม่ได้รับคำตอบที่พอพระทัย
เนื่องจากครูทั้ง 6 นั้นเป็นผู้มีความเห็นผิด หรือเป็นมิจฉาทิฏฐิอย่างสุดกู่ แต่มีสานุศิษย์หลง
งมงาย นับถือมากมาย และในที่นั้นก็มีอำมาตย์ราชบริพารซึ่งเป็นสานุศิษย์ของครูทั้ง 6 มาประชุมรวมกัน
อยู่เป็นจำนวนมาก ด้วยเหตุนี้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงเห็นเป็นโอกาสเหมาะที่จะแก้ความเห็นผิดๆ
ของคนเหล่านั้น
พระพุทธองค์ทรงมีพระดำริว่า หากพระองค์จะตรัสจำแนกธรรม และชี้ให้เห็นโทษของความผิด
นั้นด้วยพระองค์เอง บรรดาอำมาตย์ผู้เป็นสาวกของครูทั้ง 6 อาจจะไม่ฟังธรรมโดยเคารพ แต่ถ้าพระเจ้า
อชาตศัตรูทรงเป็นผู้ตรัสตำหนิคำสอนที่ผิดๆ เหล่านั้นเสียเอง พวกอำมาตย์ย่อมจะไม่ต่อต้านหรือมีปฏิกิริยา
แต่อย่างใด เพราะพระเจ้าอชาตศัตรูเป็นกษัตริย์ผู้เป็นใหญ่ในหมู่ชนเหล่านั้น
4.3 คำตอบของครูทั้ง 6
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงตรัสถามพระเจ้าอชาตศัตรูว่า ได้เคยถามปัญหาข้อนี้กับสมณพราหมณ์
พวกอื่นหรือไม่ และได้รับคำตอบอย่างไร ถ้าพระเจ้าอชาตศัตรูไม่รู้สึกหนักพระทัยก็ขอให้ตรัสตอบด้วย
พระเจ้าอชาตศัตรูจึงกราบทูลถึงการเสด็จไปถามปัญหานี้กับครูทั้ง 6 อย่างเปิดเผยว่า
ครั้งที่หนึ่ง พระองค์เคยเสด็จไปถามปัญหานี้กับครูปูรณกัสสปถึงที่อยู่ และทรงได้รับคำตอบที่
ไม่ตรงคำถาม ซึ่งมีใจความสรุปได้ว่า “บุญไม่มี บาปไม่มี”
คำกล่าวเช่นนี้ย่อมหมายความว่า ไม่ว่าคนเราจะก่อกรรมทำเข็ญเลวร้ายสักปานใด นับตั้งแต่
การฆ่าสัตว์ตัดชีวิตทั้งหลาย การลักทรัพย์ การคบชู้ หรือการโป้ปดมดเท็จใดๆ ย่อมไม่มีบาป และในทาง
บ า ที่ 4 ปั ญ ห า ค้ า ง พ ร ะ ท ย ข อ ง พ ร ะ เ จ้ า อ ช า ต ศั ต รู DOU 37