การปลอบประโลมพระราชาและพระสัมมาสัมพุทธเจ้า SB 304 ชีวิตสมณะ หน้า 41
หน้าที่ 41 / 209

สรุปเนื้อหา

ในช่วงเวลาที่พระราชาอชาตศัตรูรู้สึกหวาดหวั่น หมอชีวกโกมารภัจจ์ได้มีการปลอบประโลมพระทัย โดยยืนยันว่าเป็นเรื่องที่ไม่ต้องกังวล ก่อนจะนำพระราชาไปยังสถานที่ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าอยู่ พระราชาได้ทรงเห็นภิกษุสงฆ์จำนวนมากนั่งอยู่รอบพระพุทธองค์ด้วยความเงียบสงบ แม้จะมีความรู้สึกกลัวว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะไม่ต้อนรับ พระราชายังคงถามถึงที่ประทับ ทำให้หมอชีวกตอบชัดเจนถึงตำแหน่งของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เรื่องราวนี้แสดงถึงความสัมพันธ์ที่มีความลึกซึ้งระหว่างพระราชาและพระสงฆ์ รวมถึงการทรงรับรู้ถึงวิบากกรรมในอดีตของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ยังส่งผลต่อสุขภาพในปัจจุบัน

หัวข้อประเด็น

-ความกลัวและการปลอบประโลม
-พระราชาอชาตศัตรู
-กระแสเสียงและความเชื่อมั่น
-พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
-บุพกรรมและผลกรรม

ข้อความต้นฉบับในหน้า

กราบทูลปลอบประโลมพระทัยให้คลายจากความหวาดหวั่นครั่นคร้ามว่า “ข้าแต่พระราชาผู้ยิ่งใหญ่ ขอพระองค์อย่าทรงหวาดหวั่นเกรงกลัวเลย พระเจ้าข้า ข้าพระพุทธเจ้าไม่ได้ลวงพระองค์ ไม่ได้หลอกพระองค์ ไม่ได้ล่อ พระองค์มาให้ข้าศึกเลย ขอเชิญเสด็จต่อไปเรื่อยๆ เถิด แสงประทีปที่โรงกลม ในสวนอัมพวันยังสว่างไสวอยู่ แสดงว่ามีพระภิกษุประชุมกันเป็นจำนวนมาก พระเจ้าข้า” กระแสเสียงที่มั่นคงและบริสุทธิ์ใจของหมอชีวกโกมารภัจจ์ สามารถคลายความหวาดระแวงภัย ของพระราชาลงได้ ความสงบในพระทัยและความเชื่อมั่นในตัวหมอชีวกโกมารภัจจ์ค่อยๆ กลับคืนมา พระเจ้า อชาตศัตรูจึงเสด็จต่อไปจนกระทั่งสุดทาง เสด็จลงจากช้างพระที่นั่งแล้วทรงดำเนินเข้าประตูโรงกลม ซึ่ง ขณะนั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าประทับนั่งอยู่ท่ามกลางหมู่ภิกษุสงฆ์ พระเจ้าอชาตศัตรูเสด็จเข้าไปใกล้ที่ประทับของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทอดพระเนตรเห็น พระภิกษุจำนวนมากนั่งแวดล้อมพระพุทธองค์อยู่ด้วยอาการเงียบสงบ ไม่มีแม้แต่เสียงกระแอม ไอ ยิ่งย่าง พระบาทเข้าไปใกล้ที่ประทับเท่าใด ก็ยิ่งเกิดความหวาดหวั่นพรั่นพรึงว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าอาจจะ ไม่ทรงต้อนรับ เนื่องจากความผิดครั้งอดีตของพระองค์ และทั้งๆ ที่พระองค์ทรงรู้ดีว่าพระภิกษุรูปใด คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่เพื่อเป็นการผ่อนคลายความหวาดหวั่นในพระทัย จึงตรัสถามหมอชีวกโกมารภัจจ์ว่า “ชีวกผู้สหาย ไหนพระผู้มีพระภาคเจ้า” หมอชีวกโกมารภัจจ์จึงกราบทูลว่า “ขอเดชะ นั่นพระผู้มีพระภาคเจ้า ประทับนั่งพิงเสากลาง ผิน พระพักตร์ไปทางทิศบูรพา มีภิกษุสงฆ์นั่งแวดล้อมพระองค์อยู่ พระเจ้าข้า” การที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับนั่งพิงเสากลางนั้น เนื่องจากขณะนั้นทรงชราภาพมากแล้ว ประกอบกับทรงถูกเบียดเบียนด้วยอาการปวดที่พระปฤษฎางค์อยู่เป็นประจำ อันเป็นผลแห่งบุพกรรม ซึ่ง เบียดเบียนสังขารของพระองค์เอง แม้ว่าพระพุทธองค์จะมีพระสรีระบริบูรณ์ด้วยลักษณะมหาบุรุษ 32 ประการ ก็ตาม ด้วยเหตุนี้จึงต้องประทับพิงเสาในเวลาที่ทรงประทานโอวาทแก่ภิกษุสงฆ์ 1 สามัญญผลสูตร ที. สี, 9/92/65 บุพกรรม คือ กรรมในอดีตชาติ สมัยหนึ่งเมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังเป็นพระโพธิสัตว์ แม้จะมีรูปร่างค่อนข้างเตี้ย แต่มีพลังมหาศาล เคยท้าประลองฝีมือกับนักมวยปล้ำผู้ชนะมาทั่วทิศ พระโพธิสัตว์สามารถจับนักมวยปล้ำผู้นั้นทุ่มจนกระดูกไหล่ หักด้วยผลของวิบากกรรมนั้น พระโพธิสัตว์จึงได้รับทุกข์ทรมานด้านร่างกายมาทุกชาติ แม้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ยังทรง มีอาการเสียดแทงที่พระปฤษฎางค์อีก 30 DOU ชี วิ ต ส ม ณ ะ
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More