ข้อความต้นฉบับในหน้า
บทที่ 5
สามัญญผลเบื้องต้น
เมื่อพระเจ้าอชาตศัตรูได้กราบทูลเล่าคำตอบของครูทั้ง 6 ต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว พระองค์
จึงกราบทูลถามปัญหาเรื่องสามัญญผลต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าซ้ำอีกคำรบหนึ่ง
5.1 สามัญญผลประการแรก
ในครั้งแรกนั้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ทรงใช้พุทธวิธีอันแยบยลชี้ให้ทุกคนที่อยู่ในที่ประชุมนั้น
เห็นว่า ความเห็นของครูทั้ง 6 ล้วนเป็นมิจฉาทิฏฐิ โดยที่พระองค์ไม่ต้องทรงตำหนิผู้ใดเลย ครั้นมาบัดนี้
ถึงเวลาที่จะทรงตอบปัญหา พระพุทธองค์ทรงเลือกใช้วิธีการทำนองเดียวกับครั้งแรก คือ ทรงใช้วิธีถามกลับ
ซึ่งมีศัพท์เฉพาะว่า ปฏิปุจฉาพยากรณ์
เพื่อให้พระเจ้าอชาตศัตรูสามารถตระหนักในสามัญญผลเบื้องต้นด้วยพระองค์เอง โดยตรัสถาม
พระเจ้าอชาตศัตรูว่า
“มหาบพิตร ในข้อนี้ตถาคตจะขอย้อนถามมหาบพิตรก่อน โปรดตรัสตอบตามที่พอพระทัยเถิด
สมมุติว่า บุรุษผู้เป็นข้าทาสบริวารคนหนึ่งของมหาบพิตร เป็นผู้มีความซื่อสัตย์จงรักภักดีต่อมหาบพิตร
เสมอมา ทั้งปฏิบัติหน้าที่ของตนอย่างสมบูรณ์ ไม่มีข้อบกพร่อง แต่บุรุษผู้นี้มีความเชื่อมั่นในเรื่อง
ผลของบุญ เชื่อมั่นว่า ถ้าตนตั้งหน้าตั้งตาทำบุญ ต่อไปในภายหน้าก็ย่อมจะได้เสวยผลบุญ เป็นผู้มีอำนาจ
วาสนา พรั่งพร้อมด้วยเบญจกามคุณ และข้าทาสบริวารมากมายเช่นเดียวกับมหาบพิตร คิดได้ดังนี้
จึงปลงผมและหนวด นุ่งห่มผ้ากาสาวพัสตร์ออกบวชเป็นบรรพชิต เป็นผู้สำรวมกาย สำรวมวาจา สำรวมใจ
สันโดษด้วยความมีเพียงอาหารและผ้าปิดกายเป็นอย่างยิ่ง ยินดียิ่งในความสงัด เมื่อมหาบพิตรได้ทรง
ทราบเรื่องบุรุษผู้นี้ จะทรงมีบัญชาให้เขากลับมาเป็นข้าทาสของพระองค์อีกหรือไม่อย่างใด”
การตอบปัญหาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามี 4 แบบ คือ 1. เอกังสพยากรณ์ คือ การตอบปัญหาแง่เดียว ตอบโดยตรง
เช่น ถามว่า ขันธ์ 5 ไม่เที่ยงหรือ ตอบว่า ไม่เที่ยง เป็นต้น 2. วิภัชชพยากรณ์ คือ การตอบปัญหาโดยการจำแนกแก้ แจกแจง
แยกแยะรายละเอียดให้ผู้ฟังเข้าใจชัด 3. ปฏิปุจฉาพยากรณ์ คือ การตอบปัญหาโดยการย้อนถาม 4. ฐปนียพยากรณ์ คือ การงด
ตอบ เพราะเป็นปัญหาที่ไม่ควรตอบ
2
3
เบญจกามคุณ ได้แก่ สิ่งที่น่าปรารถนา น่าใคร่ 5 อย่าง คือ รูป เสียง กลิ่น รส และโผฏฐัพพะ (สัมผัสทางกาย)
สามัญญผลสูตร ที. ส. 9/100/38
48 DOU ชี วิ ต ส ม ณ ะ