พระเทวทัตและพระเจ้าอชาตศัตรู: บทเรียนแห่งโยนิโสมนสิการ SB 304 ชีวิตสมณะ หน้า 163
หน้าที่ 163 / 209

สรุปเนื้อหา

บทความนี้สำรวจกรณีศึกษาของพระเทวทัตและพระเจ้าอชาตศัตรู โดยเน้นความสำคัญของโยนิโสมนสิการในกระบวนการพัฒนาจิตใจ พระเทวทัตเป็นตัวอย่างของผู้ที่ขาดการอบรมและถูกครอบงำด้วยมิจฉาทิฏฐิ ขณะที่พระเจ้าอชาตศัตรูแม้จะมีช่วงเวลาหลงผิดแต่กลับมีโอกาสแก้ไขได้ด้วยการมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นกัลยาณมิตรส่งเสริมให้กลับตัว เป็นบทเรียนที่ชี้ให้เห็นว่าการมีแนวทางในการอบรมจิตใจเป็นสิ่งที่สำคัญต่อการพัฒนาตนให้เป็นคนดี

หัวข้อประเด็น

-พระเทวทัต
-พระเจ้าอชาตศัตรู
-โยนิโสมนสิการ
-มิจฉาทิฏฐิ
-การพัฒนาจิตใจ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

จ้องจับผิด เพ่งโทษและอิจฉาริษยาผู้อื่นอยู่เสมอ แม้เมื่อออกบวชพร้อมกับราชกุมารแห่งศากยวงศ์ อีก 5 พระองค์ ซึ่งภายหลังต่อมา ราชกุมารเหล่านั้นได้บรรลุมรรคผลชั้นสูงกันถ้วนหน้า และได้บรรลุอรหัตตผล เข้านิพพานตามพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปในที่สุด แต่พระเทวทัตกลับได้บรรลุเพียงโลกียฌานขั้นต่ำ ซึ่งแม้ จะมีอิทธิฤทธิ์แต่ก็เสื่อมได้ เมื่อพระเทวทัตได้เห็นมหาชนนำลาภสักการะมากมายมาถวายพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและเหล่าอสีติ มหาสาวกทั้งหลาย มีพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ เป็นต้น ส่วนตนเองนั้นมิได้รับความยกย่องนับถือ และมิได้รับลาภสักการะใดๆ ดังเช่น พระที่ออกบวชพร้อมกันจากศากยวงศ์ หรือพระมหาสาวกองค์อื่นๆ ซึ่งถือกำเนิดในตระกูลต่ำกว่าตน แทนที่พระเทวทัตจะมีโยนิโสมนสิการ พิจารณาแยกแยะหาเหตุผล คิด พากเพียรพัฒนาตนเองให้บรรลุมรรคผลที่สูงขึ้นไปอีก กลับเอาแต่คิดอิจฉาริษยาพระมหาสาวกเหล่านั้น รวม ทั้งพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จนคิดจะปกครองสงฆ์แทนพระพุทธองค์เสียเอง และแม้มิจฉาทิฏฐิอย่างแรงกล้า นี้จะมีผลให้พลังอิทธิฤทธิ์เสื่อมไปแล้ว แต่พระเทวทัตก็ยังมิได้สำนึก กลับสร้างกรรมหนักขั้นอนันตริยกรรม ถึง 2 อย่าง ดังได้กล่าวแล้ว ในกรณีของพระเทวทัตนี้ ถ้ามองอย่างผิวเผิน เราอาจจะเห็นว่าพระเทวทัตเป็นคนพาล เลวทราม ต่ำช้า มีมิจฉาทิฏฐิ ไม่น่าคบหา สมควรได้รับการประณามและรับโทษทัณฑ์อย่างหนัก แต่ถ้าจะพิจารณา โดยแยบคายแล้วจะเห็นว่า พระเทวทัตเป็นบุคคลที่น่าสงสารยิ่งนัก เพราะแม้จะมีบุญวาสนาได้ถือ กำเนิดในราชสกุล แต่ก็ขาดการอบรมปลูกฝังโยนิโสมนสิการ ยิ่งกว่านั้นยังถือเอาชาติกำเนิดเป็น “ปมเขื่อง จึงคิดว่าตนจะต้องเหนือกว่าใครๆ เมื่อเห็นใครดีกว่าก็ทนไม่ได้ โดยไม่มีปัญญาคิดพิจารณาคุณธรรม และ ความสามารถของตนเองเลย แม้มีโอกาสได้พบยอดกัลยาณมิตรของโลกคือพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ก็ยังเอาดีไม่ได้ ทั้งนี้เพราะนิสัยที่คุ้นอยู่กับการคิดชั่ว พูดชั่วและทำชั่ว ได้ฝังลึกลงในกมลสันดานเสียแล้ว จากกรณีของพระเทวทัตนี้ กล่าวได้ว่า ผู้ที่ขาดการปลูกฝังอบรมโยนิโสมนสิการมาตั้งแต่เยาว์วัย ย่อมถูกมิจฉาทิฏฐิครอบงำได้ง่าย จิตใจย่อมเศร้าหมองด้วยอาสวกิเลส เมื่อตกอยู่ในสภาพเช่นนี้นานไป ย่อมยากที่จะพัฒนาสัมมาทิฏฐิให้เกิดขึ้นได้ ดังคำโบราณว่า “ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก” ส่วนพระเจ้าอชาตศัตรูนั้น เนื่องจากพระองค์ทรงได้รับการอบรมปลูกฝังโยนิโสมนสิการจาก ครอบครัวมาแต่เยาว์วัย ทั้งได้มีโอกาสรับรสพระธรรมจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาก่อน แต่เพราะเหตุที่ ทรงคบหากับคนพาลคือพระเทวทัต พระเจ้าอชาตศัตรูจึงกลายเป็นมิจฉาทิฏฐิบุคคลไปชั่วระยะหนึ่ง แต่ ต่อมาโยนิโสมนสิการของพระองค์เองได้กระตุ้นเตือนให้ทรงสำนึกผิดจึงทรงขวนขวายหาทางพบกัลยาณมิตร ในที่สุด พระองค์ก็ทรงได้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นกัลยาณมิตรชี้ทางสว่างให้ ทำให้พระองค์มีโอกาส เริ่มต้นสั่งสมบุญบารมีได้ใหม่อีกครั้งหนึ่ง ยังผลให้อนันตริยกรรมของพระองค์เบาบางลง กรณีของพระเจ้าอชาตศัตรูนี้ ได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า โยนิโสมนสิการ และการมี กัลยาณมิตรนั้น เป็นปัจจัยสำคัญยิ่งที่ทำให้คนเป็นคนดี 152 DOU ชี วิ ต ส ม ณ ะ
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More