ข้อความต้นฉบับในหน้า
นับเป็นบุญประการหนึ่งของพระเจ้าอชาตศัตรู ที่ทรงมีอุปนิสัยกล้ายอมรับผิด เมื่อทรงตรอง
เห็นว่า การทำปิตุฆาตเป็นความผิดจริง ก็มิได้ทรงนิ่งเฉยเสีย แต่กล้าสารภาพความผิดนั้น และนับเป็นบุญ
อย่างยิ่ง อีกประการหนึ่ง ที่ทรงได้โอกาสสารภาพความผิดเฉพาะพระพักตร์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ดังนั้นการ
ผูกเวรระหว่างพระราชบิดากับพระองค์ที่มีมาแต่อดีตชาติ จึงเป็นอันยุติแต่เพียงเท่านี้ เหลือเพียงแต่ผลของ
อนันตริยกรรมที่พระองค์จะต้องเสวยในทุคติภูมิต่อไป
เมื่อพระเจ้าอชาตศัตรูทรงคลายพระทัยจากความทุกข์ ความขุ่นข้องกังวลพระทัยทั้งปวง และทรง
พิจารณาเห็นเป็นเวลาอันสมควรแล้ว จึงกราบทูลลาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงลุกจากอาสนะ ถวายบังคม
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงกระทำประทักษิณแล้วเสด็จกลับไป
ครั้นพระเจ้าอชาตศัตรูและเหล่าข้าราชบริพารกลับไปหมดสิ้นแล้ว พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัส
แก่หมู่ภิกษุสงฆ์ในที่นั้นว่า พระเจ้าอชาตศัตรูนี้ถูกบาปจากการทำปิตุฆาต ปิดกั้นหนทางสวรรค์นิพพาน
เสียแล้วในชาตินี้ หาไม่เช่นนั้นแล้ว ย่อมจะทรงได้บรรลุโสดาปัตติผล เป็นพระโสดาบันในค่ำคืนนั้นเอง
มีคำอธิบายปรากฏในอรรถกถาสามัญญผลสูตรว่า ตั้งแต่เวลาที่ปลงพระชนม์ชีพพระราชบิดาแล้ว
พระเจ้าอชาตศัตรูมิได้บรรทมหลับเลยทั้งกลางคืนและกลางวัน ครั้นหลังจากเข้าเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว
จึงทรงบรรทมหลับได้ ทั้งนี้เพราะทรงได้อานิสงส์จากการสดับพระธรรมเทศนา ทรงขอถึงพระรัตนตรัยเป็น
ที่พึ่ง ทรงมีศรัทธาอันยิ่งใหญ่ต่อพระรัตนตรัย จะหาปุถุชนคนใดเสมอเหมือนได้ยาก
แม้จะต้องเสวยผลแห่งอนันตริยกรรม ไปบังเกิดในพื้นเบื้องล่างของนรกขุมบริวารชื่อโลหกุมภี
ถึง 3 หมื่นปืนรก แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสพยากรณ์ไว้ว่า เมื่อพ้นทัณฑกรรมในเบื้องล่างของโลหกุมภี
นั้นแล้ว พระเจ้าอชาตศัตรูจะไปบังเกิดในพื้นเบื้องบนของโลหกุมภีอีก 3 หมื่นปืนรก หลังจากนั้นแล้วจะได้
ตรัสรู้เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า พระนามว่า “ชีวิตวิเสส” แล้วบรรลุนิพพานในที่สุด
กิจกรรม
หลังจากนักศึกษาได้ศึกษา บทที่ 8 สามัญญผลเบื้องสูง จบโดยสมบูรณ์แล้ว
โปรดทำแบบประเมินตนเองหลังเรียนและกิจกรรม บทที่ 8 แล้วจึงศึกษา บทที่ 9 ต่อไป
โลหกุมภี (นรกหม้อโลหะ) เป็นนรกขุมเล็กซึ่งเป็นบริวารของมหานรกขุมที่ 8 คือ อวีจินรก
130 DOU ชี วิ ต ส ม ณ ะ