การสารภาพผิดและการพัฒนานิสัยของเด็ก SB 304 ชีวิตสมณะ หน้า 168
หน้าที่ 168 / 209

สรุปเนื้อหา

บทความนี้พูดถึงความสำคัญของการสารภาพผิดในเด็ก ซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้ทำผิดซ้ำและสร้างนิสัยที่ดี โดยเน้นให้ผู้ใหญ่ฟังด้วยใจเมตตาและช่วยเด็กในการเข้าใจความผิดของตน โดยวิธีการนี้จะพัฒนาให้มีหิริโอตตัปปะเกิดขึ้นในจิตใจเด็ก และสร้างความก้าวหน้าในบุคลิกภาพของพวกเขาในอนาคต.

หัวข้อประเด็น

-ความสำคัญของการสารภาพผิด
-การพัฒนานิสัยที่ดีในเด็ก
-การฟังด้วยจิตเมตตาจากผู้ใหญ่

ข้อความต้นฉบับในหน้า

คุ้นกับความดี คุ้นกับกุศลธรรม ใจย่อมบริสุทธิ์ ผ่องใส ห่างไกลจากกิเลสยิ่งขึ้นไปตามลำดับๆ สิ่งนี้ย่อม ช่วยปกป้องคุ้มครองไม่ให้ย้อนกลับไปเกลือกกลั้วกับความชั่วอีก ดังจะเห็นจากกรณีของพระเจ้าอชาตศัตรู หลังจากที่ทรงสารภาพผิดต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว พระองค์ก็ทรงทุ่มเทพระทัยสร้างกุศลกรรมมากมาย ทั้งๆ ที่ทรงรู้ดีว่าจะต้องเสวยผลแห่งอนันตริยกรรม ที่ทรงก่อไว้หนักหนาเพียงใด แต่ก็มิได้ทรงย่อท้อ ทรงเป็นองค์อุปถัมภกพระพุทธศาสนาที่สำคัญยิ่ง จวบจน สิ้นพระชนม์ ปัจจุบันนี้ แม้จะไม่มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือพระอรหันต์ที่จะเป็นประธานในการสารภาพผิด พวกเราชาวพุทธทั้งหลายก็ควรจะอนุรักษ์วัฒนธรรมของพระอริยเจ้านี้ไว้ ด้วยการนำมาประพฤติปฏิบัติกัน ในชีวิตจริงของเรา มารดา บิดา ผู้ปกครอง ตลอดจนครูอาจารย์ควรฝึกอบรมสั่งสอนลูกหลาน หรือ ลูกศิษย์ของตน ให้มีนิสัยสารภาพผิดทุกครั้งเมื่อทำผิดพลาด การสารภาพผิดนอกจากจะเป็นการฝึก ให้เด็กสังวรระวังไม่ทำความผิดซ้ำอีกแล้ว ยังจะช่วยให้เด็กมีนิสัยไม่พูดเท็จอีกด้วย อนึ่ง การทำผิดของเด็กๆ หรือเยาวชน ย่อมเป็นความผิดเล็กๆ น้อยๆ ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย สามารถสารภาพผิดกันได้อย่างเปิดเผย อย่างน้อยที่สุดก็ต้องให้มีนิสัยคุ้นกับการกล่าวคำขอโทษ ถ้าเยาวชน ได้รับการฝึกอบรมให้มีนิสัยคุ้นกับการสารภาพผิดต่อมารดาบิดาผู้ปกครองหรือครูอาจารย์ทุกครั้งที่ทำผิดแล้ว ก็เท่ากับเป็นการสร้างนิสัยให้เขาเป็นคนรู้จักไตร่ตรอง ยั้งคิดอย่างรอบคอบ ก่อนที่จะทำสิ่งต่างๆ โดยเฉพาะ อย่างยิ่งสิ่งที่เป็นความชั่ว มิฉะนั้นแล้ว เขาจะต้องประจานความผิด ความชั่วของตนเองอยู่ร่ำไป จะต้อง รู้สึกละอายใจครั้งแล้วครั้งเล่าในขณะที่ต้องสารภาพผิด ครั้นทำผิดแล้ว หากจะปิดไว้เป็นความลับ ตนเอง ก็จะกระวนกระวายใจหาความสงบในจิตใจไม่ได้ ดังนั้น การฝึกนิสัยสารภาพผิด จึงเป็นหนทางนำไปสู่การพัฒนาหิริโอตตัปปะ คือความละอาย และกลัวบาปขึ้นในจิต ทำให้เกิดความคิดคล้อยตามพุทธภาษิตว่า “ความชั่วย่อมเผาผลาญ ในภายหลัง” ในขณะเดียวกัน ผู้ใหญ่ที่รับฟังเด็กสารภาพผิด ก็จะต้องรับฟังด้วยจิตเมตตา ให้ความสนใจ ใส่ใจ ที่จะฟังทุกถ้อยคำที่สารภาพออกมา ไม่รีบตำหนิติเตียน หรือลงโทษอย่างรุนแรงด้วยอารมณ์โกรธ พยายาม เอาใจเขามาใส่ใจเรา ฟังคำสารภาพด้วยความอดทนจนจบ เพราะถึงผู้ใหญ่จะกริ้วโกรธปานใด เด็กก็ได้ ทําผิดไปแล้ว แก้คืนไม่ได้ เมื่อเด็กสารภาพจบ แทนที่ผู้ใหญ่จะว่ากล่าวสั่งสอนทันที ควรจะถามถึงมูลเหตุ ที่ทำให้เขาคิดผิด ทำผิดเช่นนั้นเสียก่อน แล้วจึงค่อยอบรมสั่งสอน ในบางกรณี อาจใช้วิธีซักถามให้เด็กตอบออกมาเอง ถ้า เด็กสามารถตอบได้ทุกคำถาม อาจแสดงว่า เขาประจักษ์ในความผิดของตนเองแล้ว ทั้งรู้ว่าถ้าเกิดความรู้สึก นึกคิดเช่นที่ผ่านมา เขาจะต้องทำผิดซ้ำอีก วิธีการเช่นนี้ ย่อมจะช่วยให้เด็กพัฒนาความสังวรระวังตัวขึ้น ตายนสูตร ส. ส. 15/239/68 บ ท ที่ 9 บ ท ส่ ง ท้ า ย DOU 157
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More