ข้อความต้นฉบับในหน้า
ต่อมา ภิกษุนั้นได้กลับมาขอยืมจอบที่บ้านของกุฎมพีนั้นอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้กุฎิมพีเอาเท้าเขี่ยจอบ
ให้ พวกชาวบ้านเห็นกิริยาของกุฎมพี่นั้นก็ถามว่า “เมื่อเช้านี้ ท่านถวายทานแก่ภิกษุรูปนั้นด้วยความเคารพ
นอบน้อมอย่างยิ่ง แต่บัดนี้ แม้สักว่ากิริยาที่เคารพก็ไม่มี”
กุฎมพี่ตอบว่า การทำบุญเมื่อตอนเช้า เขาทำไปด้วยใจเคารพยำเกรงต่อสงฆ์ แต่มิได้หมายความ
ว่า เขามีความเคารพยำเกรงต่อภิกษุรูปนั้นเป็นส่วนตัว
จากเรื่องข้างต้น ชี้ให้เห็นว่ากุฎมพี่มีความเคารพต่อสงฆ์ เมื่อได้รับอนุมัติจากสงฆ์ให้พระภิกษุผู้
ทุศีลมารับสังฆทาน แม้ตนมิได้เคารพเลื่อมใสในภิกษุทุศีลรูปนั้น แต่ด้วยความเคารพที่เขามีต่อสงฆ์ ก็
สามารถปฏิบัติต่อภิกษุรูปนั้นในขณะมารับสังฆทาน ด้วยความเคารพนอบน้อมอย่างเต็มใจได้
สังฆทานนั้นมีผลมากกว่าปาฏิบุคคลิกทานในทุกกรณี
ซึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสแสดงไว้ชัดเจน
เมื่อครั้งพระนางมหาปชาบดีโคตมี มีพระประสงค์จะถวายผ้าเจาะจงเฉพาะพระพุทธองค์ ดังเรื่องราวต่อไปนี้
พระนางมหาปชาบดีโคตมี
ครั้งหนึ่ง พระนางมหาปชาบดีโคตมีทรงถือผ้าคู่หนึ่งเข้าไปเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังที่ประทับ
กราบทูลพระพุทธองค์ว่า
“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ผ้าใหม่คู่นี้ หม่อมฉันกรอด้าย ทอเอง ตั้งใจนำมาถวายเฉพาะพระองค์
ขอพระองค์ทรงโปรดอนุเคราะห์รับผ้าคู่นี้ด้วยเถิด”
สงฆ์ด้วย”
พระศาสดาได้สดับคำกราบทูลแล้ว ตรัสตอบว่า
“ดูก่อนโคตมี พระนางจงถวายสงฆ์เถิด เมื่อถวายสงฆ์แล้ว จักเป็นการได้บูชาอาตมภาพและ
พระนางกราบทูลขอถวายเฉพาะพระองค์แม้ครั้งที่ 2 และแม้ครั้งที่ 3 แต่พระพุทธองค์ก็ตรัสตอบ
เช่นเดิม เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสยืนยันอย่างนี้ พระอานนท์จึงกราบทูลพระองค์ว่า
“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอพระองค์ทรงโปรดรับผ้าคู่ใหม่ของพระนางมหาปชาบดีโคตมีด้วยเถิด
พระนางมีอุปการะมาก เป็นพระมาตุจฉา (น้าหญิง) ผู้ทรงบำรุงเลี้ยงประทานพระขรรส (น้ำนม) แด่
พระองค์ในเมื่อพระชนนีสวรรคตแล้ว และแม้พระองค์ก็ทรงมีอุปการะแก่พระนางเป็นอันมาก พระนางทรง
อาศัยพระองค์จึงทรงเข้าถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นสรณะ และทรงเว้นจากเวรทั้ง 5 ได้
ประกอบด้วยความเลื่อมใสไม่หวั่นไหวในพระรัตนตรัย และทรงประกอบด้วยอริยศีล ถึงที่สุดแห่งทุกข์ทั้งปวง”
ทักขิณาวิภังคสูตร, มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์ เล่มที่ 23 ข้อ 706-708 หน้า 391-392.
32 DOU บ ท ที่ 2 ท า น คื อ อะไร