ข้อความต้นฉบับในหน้า
10.4 ประเภทของ “ภาวนา”
ภาวนา มี 2 อย่าง คือ
1. สมถภาวนา
2. วิปัสสนาภาวนา
10.4.1 สมถภาวนา
สมถภาวนา คือ การฝึกฝนอบรมจิตให้สงบหยุดนิ่งเป็นอารมณ์เดียว ทำให้กิเลสนิวรณ์สงบลง
มีอรรถาธิบายแสดงไว้ว่า ชื่อว่า สมถะ เพราะยังธรรมที่เป็นข้าศึก มีกามฉันทะเป็นต้นให้สงบ คือ
ให้หมดไป นี้เป็นชื่อของสมาธิ
สมถะ มี 2 ประการ คือ
1) การเจริญสมถภาวนาของบุคคลที่ยังไม่เข้าถึงอุปจารภาวนา คือ มีจิตสงบนิ่งอยู่ในอารมณ์เดียว
เพียงชั่วระยะเวลาหนึ่ง
2) การเจริญสมถภาวนาของบุคคลที่เข้าถึงอัปปนาภาวนา คือ มหัคคตฌานตั้งแต่ปฐมฌานเป็นต้นไป
สมถภาวนา มีชื่อเรียกอีกนัยหนึ่งว่า จิตตภาวนา คือ การฝึกอบรมจิตใจให้เจริญงอกงามด้วย
คุณธรรม มีความเข้มแข็งมั่นคง เบิกบาน สงบสุข ผ่องใส พร้อมด้วยความเพียร สติ และสมาธิ
ระดับของการเจริญสมถภาวนา
การเจริญสมถภาวนาเพื่อให้เกิดสมาธิ มี 3 ขั้น คือ
1. บริกรรมภาวนา ภาวนาขั้นตระเตรียม คือ กำหนดอารมณ์กรรมฐาน
2. อุปจารภาวนา ภาวนาขั้นจวนเจียน คือ เกิดอุปจารสมาธิ
3. อัปปนาภาวนา ภาวนาขั้นแน่วแน่ คือ เกิดอัปปนาสมาธิ เข้าถึงฌาน
10.4.2. วิปัสสนาภาวนา
คำว่า วิปัสสนา มาจาก 2 บท คือ วิ (วิเศษ) + ปสฺสนา (ความเห็นแจ้ง) เมื่อรวมแล้ว แปลว่า
ความเห็นแจ้งโดยวิเศษ
วิปัสสนาภาวนา คือ การฝึกฝนอบรมจิตให้เกิดการเห็นอันวิเศษโดยตรง ได้แก่ การเห็นไตรลักษณ์
อริยสัจ แล้วละอวิชชา(ความไม่รู้ในอริยสัจ) ตัณหา ความอยากได้ อยากมี อยากเป็น) อุปาทาน ความยึด
มั่นถือมั่นด้วยอำนาจกิเลส) ได้
1 อรรถกถาขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค ภาเวตพพนิทเทส, มก. เล่ม 68 หน้า 368.
176 DOU
บท ที่ 10 ส า ร ะ ส าคั ญ ข อ ง ก า ร เ จ ริ ญ ภ า ว น า