การตั้งจิตอธิษฐานและการทำทานในชีวิตประจำวัน SB 101 วิถีชาวพุทธ หน้า 65
หน้าที่ 65 / 226

สรุปเนื้อหา

การทำทานเป็นการตั้งจิตอธิษฐานด้วยการยกทานเพื่อประโยชน์สุขแก่ตนและผู้อื่น และสิ่งสำคัญคือการทำทานอย่างมีสติและความตั้งใจ ซึ่งจะต้องปล่อยใจไม่ให้คิดเสียดายทรัพย์ นอกจากนี้ยังมีแนวทางที่สามารถทำได้ทุกวัน เช่น การทำบุญตักบาตร การถวายสังฆทาน และการให้ชีวิตสัตว์เพื่อเสริมสร้างบุญกุศล ขอส่วนบุญที่ได้จงถึงญาติทั้งหลาย ผู้ที่ทำทานจะได้รับอานิสงส์และสุขที่ยั่งยืนในอนาคต ตามที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้เกี่ยวกับการให้บุญและความสุข ความสามารถในการมีอายุยืนยาวและสุขภาพดีนั้น เป็นเครื่องตอบแทนที่แน่นอน นับเป็นสัญญาณว่า การทำทานเป็นสิ่งที่จะไม่ควรขาดในชีวิตประจำวัน และควรมีนิสัยรักในการให้

หัวข้อประเด็น

-การตั้งจิตอธิษฐาน
-การทำทาน
-อานิสงส์ของการทำทาน
-การถวายสังฆทาน
-การทำบุญตักบาตร
-การให้ชีวิตสัตว์

ข้อความต้นฉบับในหน้า

3.4.4 ตั้งจิตอธิษฐาน ด้วยการยกทานนั้น “จบ” เหนือศีรษะว่า “ขอให้ทานของข้าพเจ้านี้ เป็นไป เพื่อประโยชน์สุขแก่ตนและผู้อื่น.....จะเริ่มต้นด้วยให้ความสมบูรณ์พูนสุขหรือด้วยอะไรก็ตาม แต่ลงท้ายให้ เป็น.....นิพพานปัจจโย โหตุ (จงเป็นปัจจัยเพื่อพระนิพพาน) ดังที่บัณฑิตทั้งหลาย ในกาลก่อนจบอธิษฐาน ก่อนให้ทานว่า “ขอให้พบดวงแก้ว ขอให้แคล้วบ่วงมาร ขอให้ถึงพระนิพพาน ในอนาคตกาลเทอญ” จะ ทำให้ใจของเราใสสะอาดเต็มที่ในขณะที่ให้ 3.4.5 เมื่อทำทานเสร็จแล้ว ให้สละทานขาดออกจากใจ ไม่คิดเสียดายทรัพย์เลย ให้ปีติเบิกบาน ใจทุกครั้งที่นึกถึงทานที่ทำแล้ว บุญจากการทำทานนั้นก็จะส่งผลเต็มที่ทันที เมื่อบุญเกิดขึ้นแล้ว ควรอุทิศส่วนกุศลผลบุญนั้น เป็นปัตติทานมัย จะด้วยการกรวดน้ำให้ หรือตั้งจิตอุทิศให้ก็ได้ ขอเพียงจิตเป็นสมาธิ บุญจึงจะสำเร็จประโยชน์ ด้วยคำอุทิศส่วนกุศล ดังพระบาลีว่า “อิท เม ญาตีนํ โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตโย ขอส่วนแห่งบุญนี้ จงสำเร็จประโยชน์แก่หมู่ญาติของข้าพเจ้า ขอญาติทั้งหลาย จงอยู่เป็นสุขเถิด 3.4.6 การทำทานในชีวิตประจำวัน การทำทานเป็นสิ่งที่ไม่ควรขาด และจำเป็นต้องทำอยู่เป็นประจำทุกวัน ทั้งนี้เพื่อตอกย้ำความ เห็นถูกหรือสัมมาทิฏฐิของเราให้มั่นคง จนเกิดเป็นนิสัยรักในการให้ทาน ซึ่งสามารถทำได้ง่ายๆ หลาย ประการด้วยกัน เช่น 1. การทำบุญตักบาตร ซึ่งสามารถทำเป็นประจำได้ทุกวัน โดยอาจคอยใส่กับพระภิกษุหรือสามเณร ที่เดินบิณฑบาตอยู่ในละแวกบ้านของเรา หรือจะนำเอาข้าวปลาอาหารไปถวายท่านถึงที่วัดก็ได้ 2. การถวายสังฆทาน คือการถวายแก่สงฆ์โดยไม่เจาะจงภิกษุรูปหนึ่งรูปใด ซึ่งอาจทำได้หลายวิธี ด้วยกัน เช่น การนำสิ่งของไปถวายที่วัด หรือนิมนต์คณะสงฆ์มารับที่บ้าน แต่ที่นิยมทำกันมาก คือการ ทำบุญเลี้ยงพระเนื่องในโอกาสสำคัญต่างๆ เช่น ทำบุญขึ้นบ้านใหม่ ทำบุญวันคล้ายวันเกิด เป็นต้น 3. การให้ชีวิตสัตว์เป็นทาน เช่น การปล่อยสัตว์ปล่อยปลา เป็นการทำทานที่นิยมทำกันมาก เพราะ ผู้ที่ทำทานประเภทนี้ ย่อมมีอานิสงส์ให้เป็นผู้ที่มีอายุขัยยืนยาว มีสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง เพราะ การให้ชีวิต ก็คือการต่ออายุของสัตว์นั้นให้ยืนยาวต่อไป เมื่อเราได้ให้อายุ ก็ย่อมได้อายุเป็นเครื่องตอบแทน ดังที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ใน โภชนทานสูตร ว่า “ปราชญ์ผู้มีปัญญา ให้อายุ ย่อมได้อายุ ให้กำลัง ย่อมได้กำลัง ให้วรรณะ ย่อมได้วรรณะ ให้ปฏิภาณ ย่อมได้ปฏิภาณ ให้สุข ย่อมได้สุข ครั้นให้อายุ กำลัง วรรณะ สุข และปฏิภาณแล้ว จะเกิดในที่ใดๆ ย่อมเป็นผู้มีอายุยืน มียศ” - โภชนทานสูตร, อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต, มก. เล่ม 36 ข้อ 37 หน้า 85. 54 DOU บ ท ที่ 3 ก า ร ท ท า น น ที่ ส สม บูรณ์ แ บ บ
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More