ทาน ศีล ภาวนา SB 101 วิถีชาวพุทธ หน้า 218
หน้าที่ 218 / 226

สรุปเนื้อหา

บทนี้พูดถึงความสำคัญของการทำทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา โดยเน้นว่า การให้จะช่วยให้เกิดความสุขและแก้ไขปัญหาชีวิตได้ การทำทานช่วยลดความโลภและนำไปสู่จิตใจที่บริสุทธิ์ นอกจากนี้ยังชี้ให้เห็นว่าชีวิตเราควรใช้ประโยชน์จากสิ่งที่มีอยู่เพื่อทำดีต่อผู้อื่นและสังคม เพื่อให้สามารถหลุดพ้นจากความทุกข์และเกิดความสุขที่แท้จริง

หัวข้อประเด็น

-ความสำคัญของทาน
-ศีลและการงดเว้นจากความชั่ว
-การฝึกภาวนาเพื่อสงบใจ
-วัตถุประสงค์ของการทำทาน ศีล และภาวนา
-การให้กับผู้อื่น

ข้อความต้นฉบับในหน้า

2. ศีล คือ ความตั้งใจที่จะงดเว้นจากความชั่ว ความทุจริต สิ่งที่ไม่ดีทุกประการ เพื่อกำจัดโทสะ 3. ภาวนา คือ การฝึกใจให้สงบหยุดนิ่ง เพื่อกำจัดโมหะ 12.3 วัตถุประสงค์ของทาน ศีล ภาวนา เมื่อถึงตรงนี้เราพอจะทราบถึงความจำเป็นที่ต้องทำทาน รักษาศีล และเจริญภาวนาแล้ว ซึ่งพอจะ สรุปถึงสาเหตุหรือวัตถุประสงค์ที่ต้องทำได้ดังนี้ 1. เพื่อให้ได้ความสุข 2. เพื่อให้เกิดความรักในการทำความดีจนเป็นนิสัย 3. เพื่อกำจัดอาสวกิเลส • เพื่อให้ได้ความสุข ทาน หรือการให้ ยังประโยชน์ให้เกิดขึ้นแก่ทุกชีวิต ไม่ว่าผู้นั้นจะเป็นใครก็ตาม การให้จะช่วย แก้ไขปัญหา ที่หนักทำให้เบา ที่วุ่นวายเคร่งเครียดทำให้ผ่อนคลาย ทั้งยังช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้สูงขึ้น อีกด้วย การให้นั้น ยิ่งให้ก็ยิ่งได้ ที่ให้แล้วจะไม่ได้เป็นไม่มี เพียงแต่ว่าการได้มานั้นหลากหลายรูปแบบ จนบางครั้งทำให้แยกแยะไม่ถูก แต่อย่างไรก็ตาม ที่สัมผัสได้ชัดก็คือ ทุกครั้งที่ให้ เราจะได้ความสบายใจ ความสุขใจ และเมื่อนั้นความสะอาด บริสุทธิ์จะเกิดขึ้นในใจของเรา ถ้าปราศจากการให้หรือการเสียสละด้วยความบริสุทธิ์ใจแล้ว ก็เป็นการยากยิ่งที่คนเราจะพ้นทุกข์ พบสุขที่แท้จริงได้ เพราะต้นเหตุของความทุกข์ยาก ก็คือ ความโลภ ความอยากได้สุขที่เนื่องด้วยสิ่งภายนอก จนทำให้ชีวิตต้องดิ้นรนแสวงหาทุกวิถีทาง อันก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมามากมาย ความอยากนั้นจะ ไม่มีทางหมดไปได้เลย หากเราไม่เริ่มต้นด้วย การให้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนให้เราพิจารณาถึงความจริงของชีวิตอยู่เสมอว่า สรรพสัตว์และ สรรพสิ่งทั้งหลายไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่มีตัวตน มีเกิด แก่ เจ็บ และตายไปเป็นธรรมดา จึงควรที่เราจะ ใช้ชีวิตที่มีอยู่นั้นให้เกิดประโยชน์ให้มากที่สุด โดยนำสิ่งต่างๆ ที่เรามีออกทำประโยชน์ โดยไม่เพียงเฉพาะ ให้เกิดประโยชน์ตน ยังจะต้องเผื่อแผ่แก่ผู้อื่นและสังคมอีกด้วย เพราะสมบัติสิ่งของต่างๆ ที่ถูกสมมติว่า เป็นของเรานั้นแท้จริงแล้วเราเป็นเพียงผู้รักษาและมีสิทธิ์ใช้สมบัติได้ต่อเมื่อเรามีชีวิตอยู่เท่านั้นเมื่อเราตายไป สมบัตินี้ก็เปลี่ยนเจ้าของ ไม่สามารถติดตามเราไปได้ บทที่ 12 ท า น ศีล ภ า ว นา คื อ บ ท ส รุ ป ข อ ง วิถี ชี วิ ต DOU 207
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More