ข้อความต้นฉบับในหน้า
บทที่ 6
ศีล 5 ปกติของความเป็นมนุษย์
1. ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิฯ
ตั้งใจงดเว้นจากการฆ่าสัตว์
2. อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิฯ
ตั้งใจงดเว้นจากการลักทรัพย์
3. กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิฯ
ตั้งใจงดเว้นจากการประพฤติผิดในกาม
4. มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิฯ
ตั้งใจงดเว้นจากการพูดเท็จ
5. สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิฯ
ตั้งใจงดเว้นจากการดื่มสุรา เมรัย อันเป็นเหตุแห่งความประมาท
6.1 ศีล คือ ปกติของความเป็นมนุษย์
ศีล แปลว่า ปกติ ผู้ที่มีศีลจึงหมายถึงผู้ที่เป็นคนปกติ เป็นมนุษย์ที่ปกติ ความปกตินั้นเป็น
พื้นฐานของความสงบเรียบร้อยของทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งสิ่งที่มีชีวิต และสิ่งไม่มีชีวิต แต่เมื่อใดเกิดความไม่ปกติ
ขึ้น ความยุ่งยาก ความเดือดร้อนหรือเสียหายย่อมเกิดขึ้นตามมา เช่น ดวงอาทิตย์ปกติจะส่องสว่าง
ในเวลากลางวันเป็นปกติ ถ้าตราบใดที่พระอาทิตย์ยังส่องแสงเป็นปกติอยู่อย่างนี้ เราทั้งหลายก็ยังมีชีวิต
ที่สงบสุขอยู่ตราบนั้น แต่หากวันใดพระอาทิตย์เกิดความผิดปกติขึ้นมา คือไม่ส่องแสงในเวลากลางวันดังที่
เคยเป็นมา การงานย่อมเสียหาย ความวุ่นวายก็จะเกิดขึ้น เพียงการเกิดสุริยุปราคา การงานก็เสียหาย
ไม่น้อย หรือฤดูฝนปกติฝนจะต้องตก การทำเกษตรจึงสามารถทำไปได้อย่างเต็มที่ แต่หากปีใดที่ถึงฤดูฝน
แล้วฝนกลับไม่ตก ปีนั้นก็กลายเป็นปีที่ผิดปกติไป และสิ่งที่เกิดตามมาคือข้าวยากหมากแพง พืชผลทาง
การเกษตรก็เสียหาย
คนเราก็เช่นกัน ถ้ามีความเป็นปกติ การดำเนินชีวิตก็มีแต่ความสงบสุข สังคมก็อยู่อย่างปกติ
เรียบร้อย แต่วันใดที่คนปกติกลายเป็นคนไม่ปกติไป เมื่อนั้นความทุกข์ ความเดือดร้อนย่อมเกิดขึ้น ทั้งต่อ
ตนเองและบุคคลที่อยู่รอบข้างด้วย อะไรคือความเป็นปกติของมนุษย์ และอะไรคือความผิดปกติของมนุษย์
ศีล 5 คือปกติของความเป็นมนุษย์ หรือมนุษยธรรม คือธรรมที่ทำให้เป็นมนุษย์ ผู้ที่ผิดศีลก็ชื่อว่า
เป็นคนที่ผิดปกติไป
102 DOU บ ท ที่ 6 ศีล 5 ป ก ติ ข อ ง ค ว า ม เ ป็ น ม นุ ษ ย์