ข้อความต้นฉบับในหน้า
สรุปท้ายบท
จากที่ได้ศึกษาเรื่องทานมาทั้งหมดนั้น เราอาจสรุปสาระสำคัญที่ผู้ทำทานจะได้รับดังต่อไปนี้ คือ
ผลในปัจจุบัน (เป้าหมายระดับต้น)
1. ได้ความสุข ความสบายใจทันทีหลังจากที่ได้ให้ไปแล้ว
2. ได้อานิสงส์ในปัจจุบัน ที่เป็นเหตุนำให้ชีวิตมีความสุข และความสำเร็จทั้งปวง
3. ได้ฝึกนิสัยรักในการทำทาน โดยการกำจัดความโลภ หรือความตระหนี่ที่มีอยู่ในใจให้หมดสิ้นไป
ซึ่งนิสัยนี้จะทำให้กลายมาเป็นผู้ที่ไม่ยึดติดในวัตถุสิ่งของนอกตัวใดๆ คือมีปกติพร้อมจะสละให้เป็นทาน ได้
ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นอามิส เช่น ทรัพย์สินเงินทองของนอกตัว เลือดเนื้ออวัยวะ หรือแม้กระทั่งชีวิตก็
สละได้ ถ้าเป็นไปเพื่อการสั่งสมบุญบารมี เช่นเดียวกับพระโพธิสัตว์ ที่เอาชีวิตเป็นเดิมพันสร้างบารมีมา
จนได้ตรัสรู้ธรรม
4. ได้ตอกย้ำความเห็นถูก (สัมมาทิฏฐิ) ของตนเองให้มั่นคง ว่าการให้ทานเป็นความดี และ
เป็นสิ่งที่ต้องทำ โดยหมั่นให้ทานเพื่อตอกย้ำจนความเห็นนี้เข้าไปติดอยู่ในใจ จนกระทั่งไม่ว่าจะไปเกิด
ในภพชาติไหน ก็ยังคงมีความเห็น และนิสัยรักการให้ทานอยู่นั่นเอง
ผลในอนาคต (เป้าหมายระดับกลาง)
5. ผู้ให้ทานย่อมมีสุคติโลกสวรรค์เป็นที่ไป
6. หากกลับมาเกิดเป็นมนุษย์ครั้งใด ทานกุศลที่สั่งสมไว้ ย่อมจะกลายมาเป็นหลักประกันให้ได้เสบียง
คือ มีโภคทรัพย์สมบัติเกิดขึ้นมารองรับเอาไว้ ชีวิตก็จะมีแต่ความสุขสบาย ไม่ต้องลำบากหรือยากจน ดังที่
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า
“ผู้ไม่มีบุญ จะเป็นผู้มีศิลป์หรือไม่ก็ตาม ย่อมขวนขวายรวบรวมทรัพย์ไว้เป็นอันมาก
ผู้มีบุญย่อมใช้สอยทรัพย์เหล่านั้น”
ดังนั้น ผู้ที่สั่งสมทานกุศลไว้ดี เกิดมาจึงมีเวลาและโอกาสจะทำความดี ทั้งให้ทาน รักษาศีล หรือ
เจริญสมาธิภาวนา ให้เจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้นไปได้มากกว่า และง่ายกว่าคนอื่นๆ ทั่วไป หรืออาจกล่าวอีก
นัยหนึ่งได้ว่า ทาน ก็คือพื้นฐานสำคัญ ที่รองรับการทำความดีทุกรูปแบบของมนุษย์นั่นเอง
ผลที่สุด (เป้าหมายระดับสูงสุด)
7. บรรลุมรรคผลนิพพานได้โดยง่าย
การทำทาน จึงเป็นหัวใจของความสำเร็จในชีวิตมนุษย์ทุกคน เพราะนอกจากจะทำได้ง่ายแล้ว
ดูบทที่ 4 หัวข้อ “อานิสงส์ของการทำทาน”
1
2
สิริชาดก, ขุททกนิกาย ชาดก, เล่ม 58 ข้อ 451 หน้า 273.
84 DOU บ ท ท 4 ธ ร ร ม ท า น