ข้อความต้นฉบับในหน้า
มีความหมายดังต่อไปนี้
1. สีเลนะ สุคะติง ยันติ แปลว่า ศีลทำให้ไปสู่สุคติ
2. สีเลนะ โภคะสัมปะทา แปลว่า ศีลทำให้มีโภคทรัพย์
3. สีเลนะ นิพพุติง ยันติ แปลว่า ศีลทำให้ไปพระนิพพาน
โดยเฉพาะในข้อ 3 นี้ หมายความว่า ศีลมีส่วนทำให้ไปถึงพระนิพพานได้ ถ้าไม่มีศีลก็ไปพระ
นิพพานไม่ได้ และพระนิพพานมีความหมายเป็น 2 นัย ด้วยกัน คือ
1. พระนิพพานขั้นต้น หมายถึง คนที่มีศีลย่อมเกิดความสบายใจ จะอยู่ที่ใดก็สงบร่มเย็นเป็นสุข
2. พระนิพพานขั้นสูง หมายถึง ศีลทำให้ผู้รักษาหมดกิเลส ผู้ที่หมดกิเลสย่อมได้ไปพระนิพพาน
ทั้งสิ้น
พระนิพพานเป็นเป้าหมายสูงสุดของชาวพุทธ แต่จะไปสู่เป้าหมายสูงสุดได้ มีความจำเป็นต้อง
ปฏิบัติไปตามลำดับขั้นตอน คือ ศีล สมาธิ และปัญญา เพราะศีลเป็นที่ตั้งของสมาธิ สมาธิเป็นที่ตั้งของ
ปัญญา ถ้าไม่รักษาศีลให้บริสุทธิ์แล้ว สมาธิและปัญญาก็เกิดขึ้นไม่ได้
ดังนั้น จึงต้องรักษาศีลก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อปิดกั้นทุจริตทางกาย และวาจา เป็นผลให้เกิด
ความบริสุทธ์ทางกาย วาจา ใจ อันเป็นที่ตั้งแห่งคุณความดีทั้งหลาย ดังมีภาษิตกล่าวไว้ว่า
“ศีลเป็นเขตแดน เป็นเครื่องปิดกั้นทุจริต ทำจิตให้ร่าเริงแจ่มใส และ
เป็นท่าหยั่งลงมหาสมุทร คือนิพพานของพระพุทธเจ้าทั้งปวง เพราะฉะนั้นบุคคลพึง
รักษาศีลให้บริสุทธิ์” 1
8.2 โทษของการละเมิดศีล
ในขณะที่อานิสงส์แห่งศีลนั้น พรั่งพร้อมด้วยความดีมากมาย ในทำนองเดียวกัน โทษทัณฑ์แห่งการ
ผิดศีล ก็ส่งผลทำลายล้างทุกสิ่งทุกอย่างได้มากมายเช่นกัน
เมื่อผิดศีล ความผิดปกติย่อมจะเกิดขึ้นทันที ใจที่เคยใสสะอาด จะเศร้าหมองขุ่นมัว ยิ่งผิดศีล
มากเท่าไร ใจจะยิ่งเสื่อมคุณภาพลงไปมากเท่านั้น ทุกข์ภัยทั้งหลายก็จะเข้ามาในชีวิตและติดตามล้างผลาญ
อย่างไม่ยอมเลิกรา ไม่ว่าชาตินี้ ชาติหน้า หรือชาติไหนๆ ก็ตาม
1 สีลวเถรคาถา, ขุททกนิกาย เถรคาถา, มก. เล่ม 52 ข้อ 378 หน้า 425.
บทที่ 8 อ า น ส ง ส ข อ ง ก า ร รั ก ษ า ศีล DOU 149