ข้อความต้นฉบับในหน้า
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จออกจากเมืองพร้อมด้วยภิกษุเป็นจำนวนมาก ได้ทอดพระเนตรเห็น
พระสาคตะล้มกลิ้งอยู่ที่ประตูเมือง จึงตรัสสั่งให้ภิกษุทั้งหลายช่วยกันพยุงพระสาคตเถระไป แล้วจัดให้นอน
หันศีรษะมาทางพระองค์ แต่พระสาคตเถระกลับพลิกตัวนอนเอาเท้าทั้งสองมาทางพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ลำดับนั้น พระพุทธองค์รับสั่งถามภิกษุทั้งหลายว่า
“ดูก่อน ภิกษุทั้งหลาย สาคตะมีความเคารพ มีความยำเกรงในตถาคตมิใช่หรือ”
ภิกษุทั้งหลายจึงกราบทูลว่า
“เป็นดังรับสั่ง พระพุทธเจ้าข้า”
“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บัดนี้สาคตะมีความเคารพยำเกรงในตถาคตอยู่หรือ”
“ไม่มีเลย พระพุทธเจ้าข้า”
“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สาคตะได้ต่อสู้กับนาคภัททวติกคามใช่หรือไม่”
“ใช่ พระพุทธเจ้าข้า”
“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บัดนี้แม้แต่งูน้ำ สาคตะจะสามารถทำการต่อสู้ได้หรือไม่”
“ไม่ได้ พระพุทธเจ้าข้า”
“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย น้ำที่ดื่มเข้าไปแล้ว ถึงวิสัญญีภาพนั้นควรดื่มหรือไม่”
“ไม่ควรดื่ม พระพุทธเจ้าข้า”
“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การกระทำของสาคตะไม่เหมาะ ไม่สม ไม่ควร ไม่ใช่กิจของสมณะ ไฉน
สาคตะจึงดื่มน้ำที่ทำให้ผู้ดื่มมึนเมา การกระทำของสาคตะนั้น มิได้เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยัง
ไม่เลื่อมใส หรือเพื่อความเลื่อมใสยิ่งขึ้น ของชุมชนที่เลื่อมใสแล้ว”...
ฤทธิ์ของสุราจึงไม่เพียงแต่ทำให้พระสาคตเถระสิ้นฤทธิ์เท่านั้น แต่ยังทำให้ความประพฤติอันดีงาม
ให้กลับเสื่อมทรามสิ้นสง่าราศี จากผู้เป็นที่เคารพศรัทธา กลับกลายเป็นบุคคลที่น่ารังเกียจเดียดฉันท์
แม้จิตใจที่อาจหาญของท่าน ยังกลับกลายเป็นใจที่เสื่อมสิ้นกำลัง ทั้งที่สภาพใจของท่านแต่เดิมนั้น เป็นใจที่
ตั้งมั่น ทนทานต่อการทำลายไม่ว่าจากภัยใดๆ แต่แล้วกลับเปลี่ยนสภาพไปอย่างง่ายดาย ด้วยการดื่มสุรา
ศีลทั้งสี่ข้อที่ผ่านมา ไม่ว่าจะตั้งใจรักษาสักเพียงใด แต่หากรักษาข้อที่ 5 ไม่ได้ สี่ข้อที่เหลือก็ไม่อาจ
รักษาได้เช่นกัน อุปมาเหมือนช้างที่ใช้งวงหาอาหารเลี้ยงชีวิต หากวันใดงวงของมันไม่สามารถทำหน้าที่ได้
หรือขาดออกไปเสีย มันก็ต้องตาย เพราะขาดงวงเอาไว้จับอาหาร ถึงจะมีขาอีกสี่ข้างคอยช่วยพาเดินไป
ก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย ช้างนั้นย่อมตายไป เพราะเหตุที่ไม่มีงวง ฉันใด คนเราก็เช่นกัน หากขาดศีลข้อที่ 5
ไป อีก 4 ข้อที่เหลือก็ยากจะรักษาไว้ให้ได้ดังเดิม ฉันนั้น
บทที่ 6 ศีล 5 ป ก ติ ข อ ง ค ว า ม เ ป็ น มนุษย์ DOU 107