ข้อความต้นฉบับในหน้า
ที่มาอาราธนาให้ทรงปรินิพพานว่า
“ดูก่อนมารผู้มีบาป ภิกษุผู้เป็นสาวกของเราจักเป็นผู้ฉลาด ได้รับแนะนำ
แกล้วกล้า พหูสูต ทรงธรรม ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม เป็นผู้ปฏิบัติชอบ
ประพฤติตามธรรม เรียนกับอาจารย์ของตนแล้ว จักบอก แสดง บัญญัติ แต่งตั้ง
เปิดเผย จำแนก กระทำให้ตื้น ได้แสดงธรรมมีปาฏิหาริย์ ข่มขู่ปรัปปวาท (คำโต้
แย้งของลัทธิอื่น) ที่เกิดขึ้นให้เรียบร้อย โดยสหธรรมยังไม่ได้เพียงใด เราจักยัง
ไม่ปรินิพพานเพียงนั้น
ภิกษุณีผู้เป็นสาวิกาของเรา... อุบาสกผู้เป็นสาวกของเรา.... อุบาสิกา
ผู้เป็นสาวิกาของเรา.... จักยังไม่ฉลาด....เพียงใด เราจักยังไม่ปรินิพพานเพียงนั้น
มารผู้มีบาป พรหมจรรย์นี้ของเราจักยังไม่บริบูรณ์ กว้างขว้าง แพร่หลาย
รู้กันโดยมาก เป็นปึกแผ่นตราบเท่าที่พวกเทวดาและมนุษย์ประกาศได้ดีแล้วเพียงใด
เราจักยังไม่ปรินิพพานเพียงนั้น”
4.5 การฟังธรรม
4.5.1 คุณสมบัติของผู้ฟังธรรม
ผู้ฟังธรรมที่จะได้รับประโยชน์จากการฟังธรรมอย่างเต็มที่ ควรจะมีคุณสมบัติเหล่านี้อยู่ในตัว คือ
1. ไม่ดูแคลนหัวข้อธรรมที่ได้ฟังว่าง่ายไป เพราะธรรมะทุกบททุกข้อในพระพุทธศาสนา ไม่ว่าจะ
ง่ายหรือยากก็ตาม หากฟังด้วยการพิจารณา และนำไปปฏิบัติตามอย่างจริงจัง ย่อมส่งผลให้ผู้นั้นมีโอกาส
บรรลุธรรมในที่สุด
2. ไม่ดูแคลนความรู้ความสามารถของผู้แสดงธรรม คือ อย่าคิดว่าผู้แสดงธรรมนี้ด้อยกว่าเรา
โดยยกเอาวัยวุฒิ คุณวุฒิ หรือชาติวุฒิ เป็นต้นฯ มาเป็นข้อดูหมิ่นดูแคลน เพราะบางครั้ง ผู้แสดงธรรมอาจมี
คุณธรรมสูงกว่าเราก็เป็นได้
3. ไม่ดูแคลนตนเองว่าฉลาดไม่พอจะรองรับธรรม เพราะแม้บางครั้งเราอาจจะฟังธรรมไม่เข้าใจ
แต่ขอให้อดทนฟังไป อีกหน่อยก็จะค่อยๆ เข้าใจไปเอง นอกจากเข้าใจแล้ว ยังจะได้เพาะนิสัยรักใน
การฟังธรรม ซึ่งจะนำประโยชน์สุขมาให้กับตนเองทั้งในปัจจุบันและอนาคต
4. มีใจเป็นสมาธิขณะฟังธรรม คือ ฟังด้วยความตั้งใจ ไม่พูดคุย หรือหยอกล้อเล่นกัน เพราะถ้ายิ่ง
ฟังด้วยใจเป็นสมาธิมากเท่าไร ก็จะเกิดความรู้ความเข้าใจในธรรมะได้มากเท่านั้น
มหาปรินิพพานสูตร, ทีฆนิกาย มหาวรรค, มก. เล่ม 13 ข้อ 102 หน้า 285.
82 DOU บ ท ที 4 ธ ร ร ม ท า น