ข้อความต้นฉบับในหน้า
อาจารย์ได้ฟังดังนั้นจึงคิดว่า
“ช่างเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อ เราจะไปถามบิดาของกุมารนี้ดู ถ้าพบว่าเป็นความจริง เราจะได้ประพฤติ
ธรรมตามแบบพวกเขา”
เมื่อจัดการพิธีศพบุตรของตนเสร็จสิ้นแล้ว อาจารย์จึงเรียกธรรมบาลกุมารมาพบและสั่งว่า
“ธรรมปาละ เรามีกิจธุระบางอย่างที่ต่างเมือง เธอจงคอยแนะนำให้ความรู้แก่ศิษย์ในสำนักนี้
จนกว่าเราจะกลับมา”
จากนั้น ผู้เป็นอาจารย์ได้จัดการเอากระดูกแพะตัวหนึ่งมาทำความสะอาด แล้วเอาใส่กระสอบไว้
ให้คนรับใช้เป็นผู้ถือ แล้วพากันเดินทางออกจากเมืองตักกสิลา จนมาถึงบ้านของพราหมณ์ธรรมปาละ พวก
ทาสของพราหมณ์ได้เห็นอาจารย์ของธรรมปาละกุมารมายืนอยู่ที่ประตู ก็พากันมารับร่ม รับรองเท้า
จากมือของอาจารย์ และรับกระสอบจากมือของคนรับใช้ อาจารย์จึงกล่าวว่า
“พวกท่านจงไปบอกบิดาของธรรมบาลกุมารว่า อาจารย์ของธรรมบาลกุมารมาขอพบ
เมื่อพราหมณ์ผู้เป็นบิดาของธรรมบาลกุมารได้ทราบ ก็รีบมาเชื้อเชิญต้อนรับ นำอาจารย์ขึ้นเรือน
คอยปรนนิบัติ จัดอาหารให้รับประทาน และนั่งสนทนาอยู่ด้วย แล้วอาจารย์ก็แสร้งกล่าวกับพราหมณ์ว่า
“ท่านพราหมณ์ ธรรมบาลกุมารบุตรของท่านนั้น เป็นผู้มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด สามารถเรียนจบ
ไตรเพทและศิลปะ 18 ประการ แต่น่าเสียดายที่โรคร้ายได้ทำให้ธรรมบาลกุมารนั้นตายเสียแล้ว ท่านพราหมณ์
สังขารทั้งปวงนั้นไม่เที่ยง ท่านอย่าได้เศร้าโศกไปเลยนะ”
พราหมณ์ได้ฟังดังนั้น กลับตบมือ หัวเราะดังลั่น อาจารย์จึงถามด้วยความประหลาดใจว่า
“ท่านพราหมณ์ ท่านหัวเราะทำไม”
พราหมณ์จึงตอบว่า
“บุตรของเรายังไม่ตายหรอก ที่ตายนั้นเป็นคนอื่น”
อาจารย์กล่าวว่า
“ท่านพราหมณ์ ท่านจงเชื่อเถิด นี่คือกระดูกบุตรของท่าน”
พร้อมกับนำกระดูกออกมาให้พราหมณ์ดู แต่พราหมณ์กลับกล่าวว่า
“นี้ไม่ใช่กระดูกบุตรของเรา บุตรของเรายังไม่ตายหรอก เพราะตระกูลของเรา 7 ชั่วโคตรมาแล้ว
ไม่เคยมีใครตายในวัยหนุ่มสาวเลย ท่านนั้นพูดปด
จึงถามว่า
ขณะนั้น คนทั้งหลายก็ตบมือหัวเราะกันยกใหญ่ อาจารย์เห็นความอัศจรรย์นั้น รู้สึกยินดียิ่งนัก
บทที่ 8 อ า น ส ง ส ข อ ง ก า ร รั ก ษ า ศีล DOU 143