ศีลเป็นเครื่องมือแก้ปัญหาเศรษฐกิจ SB 101 วิถีชาวพุทธ หน้า 156
หน้าที่ 156 / 226

สรุปเนื้อหา

บทความนี้พูดถึงความสำคัญของการรักษาศีลในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ โดยแสดงให้เห็นว่าเมื่อบุคคลหรือสังคมใดมุ่งมั่นในการรักษาศีล อานิสงส์ที่เกิดขึ้นจะส่งผลให้เมืองหรือประเทศนั้นๆ มีความอุดมสมบูรณ์ ประชาชนอยู่ดีมีสุข ในทางกลับกัน หากมีผู้นำที่ทุศีล การกระทำเหล่านี้ย่อมส่งผลร้ายต่อประชาชน ทำให้บ้านเมืองประสบกับปัญหาหลายอย่าง โดยยกตัวอย่างจากตำนานกุรุธรรมชาดกและสถานการณ์ในอดีตที่แสดงให้เห็นว่า ผู้นำที่มีความรับผิดชอบและยึดมั่นในศีลจะสามารถนำความเจริญมาสู่ประชาชนได้อย่างไร สอนให้เราตระหนักถึงความสำคัญของศีลในการพัฒนาทางเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิต.

หัวข้อประเด็น

-อานิสงส์ของการรักษาศีล
-ความสำคัญของศีลในสังคม
-ปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดจากการทุศีล
-บทเรียนจากกุรุธรรมชาดก
-การพัฒนาคุณภาพชีวิตผ่านการรักษาศีล

ข้อความต้นฉบับในหน้า

8.1.3 ศีลเป็นเครื่องมือแก้ปัญหาเศรษฐกิจ อานิสงส์ของการรักษาศีลที่กล่าวมาแล้ว เป็นเรื่องเฉพาะตัวบุคคล หมายความว่า ใครรักษาศีลได้ ครบบริบูรณ์ ผู้นั้นย่อมได้รับอานิสงส์ดังกล่าว ซึ่งเกิดผลเฉพาะตัวแก่ผู้ปฏิบัติ แต่ถ้าบุคคลหมู่คณะใด เมืองใด ประเทศใด พร้อมใจกันระมัดระวังมิให้การรักษาศีลขาดตกบกพร่องอานิสงส์ย่อมเกิดขึ้นครอบคลุมทั้งแผ่นดิน เมืองนั้น ประเทศนั้น จะมีแต่ความอุดมสมบูรณ์ ประชาชนอยู่ดีกินดีกันทุกคน ในทำนองกลับกัน ถ้าเมืองใด ประเทศใด มีผู้นำทุศีล ซึ่งทั้งนี้ย่อมหมายถึงว่า ประชาชนชาวเมือง ทั้งหลาย ก็มีแนวโน้มเป็นผู้ทุศีลด้วย บ้านเมืองนั้นก็จะประสบทุพภิกขภัย คือ ความอดอยากยากแค้น ไป ทั่วทุกหย่อมหญ้าด้วย ดังมีเรื่องปรากฏใน กุรุธรรมชาดก มีใจความโดยสังเขป ดังต่อไปนี้ ในอดีตกาลก่อนสมัยพุทธกาล เมื่อพระเจ้าธนัญชัยโกรพยะผู้เป็นเจ้าเมืองแคว้นกุรุรัฐเสด็จสวรรคต แล้ว พระราชโอรสจึงได้เสวยราชสมบัติแทน ทรงพระนามว่าพระเจ้าธนัญชัยโกรพยะ พระมหากษัตริย์องค์ ใหม่นี้ ทรงดำรงมั่นอยู่ในทศพิธราชธรรม และทรงรักษากุรุธรรม คือ ศีล 5 อันเป็นธรรมเนียมของชาวกุรุ รัฐเสมอมา พระบรมวงศานุวงศ์ตลอดจนชาวเมืองทั้งหลาย ต่างก็ยึดมั่นในกุรุธรรมหรือศีล 5 เหมือนกัน นอกจากนั้น พระองค์ยังได้สร้างโรงทานขึ้นในพระนครถึง 6 แห่ง ซึ่งแสดงถึงสภาพเศรษฐกิจที่ดีมาก ส่วนเมืองทันตบุรี ซึ่งมีพระเจ้ากาลิงคราชเป็นกษัตริย์ปกครอง และอยู่ไม่ห่างจากแคว้นกุรุรัฐ นักชาวเมืองต่างอดอยากยากแค้น ถูกโรคต่างๆ รบกวนอยู่เสมอ ทั้งนี้เพราะเกิดฝนแล้ง ข้าวยากหมากแพง ประชาชนจึงพากันเข้าไปร้องทุกข์อยู่ที่ประตูพระราชวัง พระเจ้ากาลิงคราชจึงตรัสถามบรรดาราษฎรว่า เมื่อฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาลเช่นนี้ พระมหากษัตริย์แต่โบราณทรงมีวิธีแก้ไขปัญหาอย่างไร ราษฎร ทั้งหลายจึงกราบทูลว่า กษัตริย์ในครั้งนั้นจะทรงบริจาคทาน และทรงถืออุโบสถศีลอยู่ในปราสาทตลอด 7 วัน ฝนจึงจะตก ราษฎรก็จะหว่านข้าว ดำกล้า ทำมาหากินได้ พระเจ้ากาลิงคราชจึงทรงปฏิบัติตามคำกราบทูลของราษฎร แต่ฝนก็ยังไม่ตก พระองค์จึงทรง ปรึกษาหารือกับบรรดาอำมาตย์ทั้งหลาย บรรดาอำมาตย์ทั้งหลายจึงกราบทูลให้ขอพญาช้างเผือกมงคล จากพระเจ้าธนัญชัยโกรพยะ มาสู่ทันตบุรี ฝนก็จะตกบริบูรณ์ พระเจ้ากาลิงคราช จึงโปรดให้หาพราหมณ์ 8 คน เดินทางไปกรุงอินทปัตถ์ แคว้นกุรุ ทูลขอ พญาช้างเผือกต่อพระเจ้าธนัญชัยโกรพยะ ตามคำกราบทูลของเหล่าอำมาตย์ พราหมณ์ทั้ง 8 คน จึงได้เดินทางไปขอช้างเผือกจากพระเจ้าธนัญชัยโกรพยะ พระองค์ก็ พระราชทานพญาช้างเผือกให้ด้วยความยินดี พราหมณ์จึงนำไปถวายพระเจ้ากาลิงคราช แต่ฝนก็ยังไม่ตก ตามความปรารถนา พระเจ้ากาลิงคราชจึงทรงปรึกษาหารือกับบรรดาอำมาตย์ เพื่อหาวิธีให้ฝนตกลงมาอีก อรรถกถาขุททกนิกาย ติกนิบาตชาดก กุรุธรรมชาดก, มก. เล่ม 58 หน้า 190-213. บทที่ 8 อ า น ส ง ส ข อ ง ก า ร รั ก ษ า ศีล DOU 145
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More