ข้อความต้นฉบับในหน้า
คอมที่เป็นเช่นนี้นับว่ามีความสำคัญ
20 ปี (2544-2549)
๑. กัมมารายสมาส
นามศักดิ์ที่มีวิชากัลและจูงโดยกันทั้ง ๒ บทหนึ่งเป็นประธาน คือเป็นนามาย อีกบทหนึ่งเป็นวิชาประธาน คือเป็นคุณนามทั้ง ๒ บท มีบทเป็นประธานที่เข้าเป็นบทเดียวกัน ชื่อว่า “กัมมารายสมาส” กัมมารายสมาส นั้น มี ๖ อย่าง คือ วิเสสนุพนฺ เต วิเสสนดุมครบ ๓ วิเสสนโบทษฺ ๑ วิเสสนโมหงฺ ๑ สัมภาวนุพนฺ ๑ อาราธนุพนฺ
กัมมารายสมาสนี้ เป็นได้ทั้งสมาน และสมาทุก วิธีใดจะสำเร็จรูป วิเคราะห์ มีประธานในบทดังนั้น เช่น วิเสสนุพนฺ อ. มนฺโธ ปูริโส = มหาบูรโต คำว่า “บุรุษ” เป็นประธานในบทผลนั้นไม่ต้องมาทบทวนเป็นประธาน อีกทอดหนึ่ง วิเสสนดุมครบ ๓ อ. สดฺโต วิเสสน = สุตวิโล คำว่า “สตร” เป็นประธานในวิเคราะห์ได้ สมาภาวนุพนฺ อ. ขุดดิไซ (อา) อติ มานฺ โณ = มตฺยามาโณ คำว่า “มานะ” เป็นนามนาม เป็นประธานในปริวารในวิเคราะห์ไม่ได้ ไม่ต้องใช่บทบาทเป็นประธาน ลักษณะของมันจะระยะแตกต่าง ดังกล่าวนี้ จัดเป็น “สมาธนา” ส่วนวิธีที่เมื่ออนุบาลและบทปลดของสมาน ไม่มีศักดิ์เป็นประธาน ต้องหา ศัพท์อื่นมาเป็นประธาน จึ่งเป็นสมาทุก เพราะสำเร็จรูปแล้ว เป็นวิเสสนา คือ คุณณ ของศัพท์อื่น เช่น วิเสโนโยม อ. อนุโฒ จ. พฤิโร = อนุโธจริโย คำว่า “อนโฒ” และ “พฤิโร” ทั้ง ๒ ศัพท์เป็นคุณนาม กล่าวคือ เป็นประธานในตัวเองไม่ได้ จำเป็นต้อง หาศัพท์อื่นมาเป็นประธานให้หมดระวังในลักษณะนั้น คือ ไม่สิ่งจะวินัยดี อย่างเดียวกัน ทั้งให้รู้ความเหมาะกัน เช่นคำว่า “ทั้งหมดนวา” หาก จะใช้คำ อ. นอกจากคำคือ คำว่า “ทั้งหมดนวา” มาก็จะเป็นอย่างนั้นไม่ได้ ต้องหา ศัพท์ซึ่งเพงามนุษย์หรือสัตว์ ซึ่งเป็นผู้ยอดและหนวกได้ นอกจากนั้น สิ่งที่ควร คำนึงถึงต่อไป ก็คือ การใช้งค์ วาจา ต้องให้ถรรมัยอีก ดังนั้น จึงกล่าวได้ว่า วิเสสนโบทษฺ จัด เป็น “สมาภาสุค”