ข้อความต้นฉบับในหน้า
๒. ตอบ แนว หมายถึง ที่ตั้งที่เกิดของอักษร มี อย่าง คือ กก-โค ๑
ศาล-เผาน ๑ มูซา-ศรสะหรือปุ่มเหล็ก ๑ ทนโต-ฟัน ๑ โอคิโอโ-ริมฝาก ๑ นาสิกา-จมูก ๑
กรณี หมายถึง ที่อักษรมี ๔ คือ ชิวาเมู-ทามกอซั่น ๑ ชิวโฟค-ถิ่นปลายลิ้นเข้ามา ๑ ชิวู่คู่-ปลายลิ้น ๑ ลาภอุน-ฐานของตน ๑
ถ ก ทร ณิ ส ๗ ตัวนี้ เกิดที่พื้น เรียกว่า ทนุดา
เอ เกิดใน ๒ ฐาน คือ คอ และ เพดาน เรียกว่า กนุดาฤ ฐู
โอ เกิดใน ๒ ฐาน คือ ฟัน และ ริมฝีปาก เรียกว่า กนอูรฌโ๎ ฐู
๓. ตอบ การต่อพยัญชนะอักษรให้สอดคล้องมี อย่าง คือ จะลงติ
ต่อสร-๎ พยัญชนะ ๑ นิคคิดฒณฺ์ ต่อณฺคิดฒน์ ต่อคิฒฺคิด ๑ มีประโยชน์ ๑ ประการ คือ
๑. ย่อให้ลง
๒. เป็นอธิปะนการแต่งฉันท์
๓. ทำคำพูดให้สะดวก ฯ
๔. ตอบ สนีแตตต่างจากสมาฯ เพราะสนีเป็นการต่ออักขระและอักษร ให้เนื่องด้วยอักษร ส่วนสมาฯเป็นการย่อบทที่มีวิภัคตั้งแต่ ๒ บทขึ้นไปให้เป็นบทเดียวกันเช่น คำว่า กโต อุปการะ เมื่อเอามาทั้ง ๒ นี้อ้างกันเป็น “กโตอุปการะ” นี้คือว่า “สมาฯ” แต่ถ้าหากว่า กโตอุปฌา มามีอักษรให้ออกอีก คือ เอากโต-อุปการะ มาแดงกันเข้า เป็น “กโตอุปฌา” อย่างนี้ชื่อว่า “สนี” อาหาร กับ วิภั ฐ นั้น มีความแตกต่างกัน คือ อาหารนั้น คือเปล่ง สะร เป็น พยัญชนะ คือ เปล่ง อิ เป็น ย เช่น อตุ๊-อธาระ เป็น อยูอาระ, เปล่ง เ อ เป็น ย เช่น เต+อสุ เป็น ฑุสูสู เป็นนั้น ล้วนวิภัครนั่น แปลประโยคให้เป็นสระ แต่ไม่ได้จาก รูปเดิม คือ เอา อิ เป็น เอ อา อู เป็น โอ เช่น มุสิ-อาโล่ เป็น มุนโลโย เป็นต้น ฯ
๕. ตอบ ได้สนิทก็โยปราณฺ ๗ อย่าง คือ โลโป: สม ๎ อาโล: เปล่ง ๑ อาโล: ลงอัษรตัวใหม่ ๑ วิภาโ: ทำให้ผิดจากเดิม ๑ ปกติ: ปกติ ๑
ที่โนะ: ทำให้ยาว ๑ รวดษ: ทำให้สั้น ๑