ข้อความต้นฉบับในหน้า
กรม ปัจจัย มีรูปประกอบและคำแปล ดังนี้
อ. สุพเทพ อิ่ม ปลูธา อย่เมล์ วิเลเสน ปาฎิโดติ ปาฎิโต่ม ย
คำแปล ปาปชาน ท.เหล่านี้ ทั้งปวง เป็นบันติฉะ, ษนี้ เป็นบันติฉะ โดยวิเลเสนห่ง
(กว่า) ชน ท.เหล่านี้ เหตุนี้น (ชนนี้) ชื่อปาปะละ (เป็นบันติฉะสุด) ฯ
= รูปปัจจัย ปัญญิติ ดัฟท์
ตร ปัจจัย มีรูปประกะระทีและคำแปล ด้วยนี่
อ. สุพเทพ อิ่ม ปัญญิติ, อย่เมล์ วิเลเสน ปกฤติเดติ ปกฤติเดมิ ฯ
คำแปล ชน ท. เหล่านี้ ทั้งปวง เป็นบันติฉะ, ชนนี้ เป็นบันติฉะ โดยวิเลเฉพ เหนนี้ เป็นบันติฉะ, ชนนี้ชื่อปัญติฉะ (เป็นบันติฉะที่สุด) ฯ
คำศัพท์อื่น ๆ เมื่อจึงวิเคราะห์ให้ดำเนินตามนี้ คือให้อก ปาปะ, ปาโบเอียเอัสที่ต้องการไม่ต้องไป แลัวงปัจจัยที่ต้องการที่บาปะ ก็เป็นอันใช้ได้
อิอุตลูก ปัจจัย มีใช้บ่อยที่สุด นอกจาก ปาปะอุตลูก แล้ว ยังไม่พบ
ส่วนคำว่า "เสยโย" เชยโย ฯ คำนี้ จะตั้งวิเคราะห์อย่างที่แล้วมาไม่ได้ เพราะรูปศัพท์เดิมไม่ตรงตัว เสยโย นั้น มูลศัพท์เป็น ส เมื่อลง อิอ ปัจจัย แล้ว ต้องเป็น สโย แต่ไม่ถูกตามภาษามน จึงเปลือง อิ เป็น เอล แล้วซ้อน ย จึงเป็น เสยโย ส่วน เชยโย มี ช เป็นลักษณะ เมื่อลง ปัจจัย ก็ลงเป็นเชียกัน เมื่อจะตั้งวิเคราะห์ ต้องเพ่งจ้องตรรกะก่อน จะอุตพัทธ์เป็นดังเดิมไม่ได้ ฯ เป็น ไปในอารมณ์ “ปฐม” เปดว่า “ปรสรว” ส่วน จะเป็นไปในอารมณ์ “ฤทูป” เปดว่า “เจริญ” ให้เอาปัจจัยเหล่านี้ไปประกอบวิเคราะห์ ตัวอย่างเช่น เสยโย คำที่ มีรูปประกะระและคำแปลดังนี้
อ. สุพเทพ มีรูปประกะระและคำแปลดังนี้
อ. สุพเทพ อิ่ม ปลูธา อย่เมล์ วิเลเสน ปกฤติเดติ เสยโย ฯ
คำแปล ฌน ท.เหล่านี้ ทั้งหมด ประเสริฐ, ษณะปะเสริฐ โดยวิเลเฉพ แห่ง (กว่า) ชน ท.เหล่านี้ เหตุนี้น (ชนนี้) ชื่อเสยยะ (ประเสริฐกว่า).